วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

cookie ทำงานอย่างไร

Cookie ขนมบนอินเตอร์เน็ต
ในโลกอินเตอร์เน็ตมักมีอะไรแปลก ๆ เกิดขึ้นได้เสอมรวมไปถึงชื่อหรือคำศํพท์แปลก ๆซึ่งบางครั้งก็เป็นศัพท์เทคนิคที่ดูเหมือนไม่
น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกันอินเตอร์เน็ตได้เลย ยกตัวอย่างเช่น Cookie ที่เรากำลังจะพูดถึง เป็นต้น
Cookie ชื่อนี้คิดว่านักท่องอินเตอร์เน็ตหลายคนคงรู้จักและเคยได้สัมผัสมาบ้างแล้ว แต่บางคนอ่านแล้วอาจจะกำลังงงหรือเข้าใจผิดว่า นี่เป็น
หนังสือทำขนม สำหรับคุณแม่บ้านหรือเปล่า ก่อนที่จะเข้าใจผิดกันมากไปกว่านี้ ก็ต้องขอเฉลย Cookie ในที่นี้ไม่ใช้ขนมแสนอร่อย แต่จะเป็นอะไร และเกี่ยวข้อง
อย่างไรกับอินเตอร์เน็ตนตั้น เราไปหาคำตอบกันดีกว่า

Cookie คืออะไร?

Cookie ในที่นี้เป็นเท็กซ์ไฟล์ขนาดเล็ก ๆ ที่ถูกสร้างจากบรรทัดคำสั่งใน HTML และทำงานได้บนทุกแพลตฟอร์มที่สามารถใช้บราวเซอร์รุ่น
ใหม่ ได้ Cookie มีการทำงานพื้นฐาน 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือ ขณะที่คุณเข้าไปทำกิจกรรมในเว็บไซต์ต่าง ๆ นั้นตัวอย่างเช่น การเลือกเข้าไปใน Category ที่
ชื่นชอบหรือการลงทะเบียนต่าง ๆ เว็บเซอร์ฟเวอร์จะสร้าง Cookie ขึ้นมาเพื่อเก็บข้อมูลของคุณไว้ และส่งมาเก็บไว้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว
ขั้นตอน ที่ 2 Cookie จะถูกส่งจากเครื่องของคุณกลับไปยังเว็บเซอร์ฟเวอร์ทุกครั้งที่มีการติดต่อ กับเว็บไซต์นั้นพร้อมกับข้อมูลบางอย่างของคุณ เช่นไอพี แอดเดรส,
ประเภท ของบราวเซอร์ที่คุณใช้เป็นต้น โดยที่คุณไม่รู้ตัวเช่นเคย Cookie ในเครื่องของคุณจะติดต่อได้กับโดเมนเซอร์ฟเวอร์เดิมที่เป็นผู้ส่งมาเท่านั้น แต่ในบาง
กรณีที่มีหลายเว็บไซต์อยู่ในเครือข่ายเดียวกันแล้ว เว็บไซต์เหล่านั้นก็อาจจะติดต่อกับคุณด้วย Cookie เดียวกันได้
มา ถึงบรรทัดนี้แล้วหลายคนคงอาจจะไม่ค่อยชอบใจ Cookie กันเท่าใดนัก แต่การทำหน้าที่เช่นนี้เป็นการช่วยทำให้เว็บไซต์มีปฏิสัมพันธ์กับผู้
ใช้ อินเตอร์เน็ตมากขึ้น และยังสร้างความสะดวกสบายและประหยัดเวลาอีกด้วย เพราะเมื่อคุณทำกิจกรรมบนเว็บไซต์ เว็บไซต์ก็จะโต้ตอบกับคุณได้โดยตรงด้วย
ข้อมูล ในเรื่องที่คุณสนใจบนหน้าเว็บเพจนั้นทัน่ทีหรือในกรณีที่ต้องล็อกอินเข้าไป นั้น ยูสเซอร์เนมของคุณจะถูกเก็บไว้ใน Cookie เพื่อความสะดวกของคุณในการ
ล็อก อินครั้งต่อไป แต่ก็วางใจได้ค่ะเพราะว่า Cookie ไม่มีความสามารถถึงขนาดที่จะขโมยพาสเวิร์ดหรือข้อมูลส่วนตัวที่ต้องการความ ปลอดภัย รวมถึงไม่สามารถขโมย
ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ของคุณได้ และจะไม่ทำลายไฟล์หรือข้อมูลอื่น ๆ ในเครื่องของคุณ แต่จะฝังตัวและทำหน้าที่ของมันอยู่อย่างเงียบ ๆ โดยทั่วไปแล้ว Cookie มักจะถูก
ทำลายทันทีเมื่อคุณปิดบราวเซอร์หรือยุติการติดต่อกับเว็บไซต์ ที่เป็นผู้ส่ง Cookie นั้นมา แต่มี Cookie อีกประเภที่ระบุวันหมดอายุไว้ มันจะถูกเก็บอยู่ในฮาร์ดดิสก
์แม้ว่าคุณจะปิดบราวเซอร์ไปแล้วก็ตามและจะ ทำหน้าที่เฝ้าดูพฤติกรรมการท่องอินเตอร์เน็ตของคุณ จากนั้นก็จะทำการส่งข้อมูลเหล่านั้นกลับไปยังเว็บเซอร์ฟเวอร์
เดิมทันทีที่มีการติดต่อกับเว็บไซต์นั้นอีกครั้ง เมื่อถึงวันหมดอายุที่กำหนดไว้ Cookie เหล่านี้ก็จะหายไป

Cookie มีประโยชน์อย่างไรบ้าง

Cookie ให้ประโยชน์มากมายทั้งกับผู้รับและผู้ส่ง ทางด้านผู้รับหรือบรรดานักท่องเว็บไซต์ทั้งหลายก็จะได้รับความสะดวกสบายมาก ขึ้นเพราะไม่
ต้องคอยนั่งกรอกข้อมูลซ้ำ ๆ เข่น ยูสเซอร์ไอดีในหน้าเว็บเพจเดิม หรือได้รับข้อมูลข่าวสารที่ตรงความต้องการทันทีในหน้าแรกของเว็บเพจ โดยที่ไม่ต้องเวียเวลา
หาว่าข้อมูลเหล่านั้นอยู่ตรงส่วนไหนหรือเลือกที่จะไม่รับข้อมูลที่ไม่ต้องการได้เพื่อไม่ให้เป้นที่รำคาญใจ เป็นต้น
ใน ส่วนของเว็บไซต์ที่เป็นผู้ส่ง Cookie นั้นแน่นอนว่าย่อมเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดเพราะเว็บไซต์ต่าง ๆ เหล่านี้ก็เปรียบเสมือนผู้ให้บริ
การและผู้ที่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้น ก็เปรียบเสมือนลูกค้า ข้อมูลทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าย่อมเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญในการนำมา พัฒนาเว็บไซต์ให้ตอบสนอง
ความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด การบริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย หรือความมีปฏิสัมพันธ์ของเว็บไซต์ มักจะเป็นที่ถูกใจผู้ใช้อินเตอร์เน็ต เพราะบรรดาผู้
ใช้อินเตอร์เน็ตทั้ง หลายมักจะเป็นคนใจร้อนและขี้หงุดหงิด ดังนั้นเว็บไซต์ต่าง ๆ จึงพยายามที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าอย่างมากที่สุดเพื่อสร้างความพอใจ
และ ดึงดูดให้ลุกค้ากลับมาใช้บริการอีก เพราะแต่ละเว็บไซต์นั้นใกล็กันเพียงแค่คลิกเดียวเท่านั้น ดังนั้นหากเว็บไซต์ใดสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า
ได้ดีกว่า ย่ามมีชัยไปกว่าครึ่ง และ Cookie ก็เป็นเครื่องมือตัวหนึ่งที่ช่วยให้เว็บไซต์มีความสามารถดังกล่าว ประโยชน์ที่สำคัญอีกอย่างของ Cookie คือ การทำ
หน้าที่เก็บสถิติผู้เข้า ชม ทำให้เจ้าของเว็บไซต์รู้ว่า ส่วนใดที่มีผู้ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมมากที่สุดและส่วนใดน้อยที่สุด เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการพัฒนาเว็บ
ไซต์ได จึงกล่าวได้ว่า Cookie เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างหนึ่งของผู้ให้บริการบนอินเตอร์เน็ตที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย
จะสามารถป้องกันหรือปฏิเสธ Cookie ได้หรือไม่
ใน บราวเซอร์รุ่นใหม่ ๆ นี้มีความสามารถเพิ่มขึ้นมากมาย รวมทั้งการควบคุม Cookie ด้วยซึ่งช่วยให้ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหลายรู้ตัวว่ากำลังได้รับ
Cookie หรือปฏิเสธไม่รับ Cookie ทั้งหมดก็ได้ วิธีการกำหนดค่าดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับชนิดของบราวเซอร์
ใน อินเตอร์เน็ต เอ็กซ์พลอเรอร์ เวอร์ชัน 4 ขึ้นไป สามารถตั้งค่าในการาควบคุม Cookie ได้ โดยเลือกจาก View เมนู แล้วเลือก Internet Option
จากนั้น ให้คลิกเลือกที่ Advance Tab แล้วเลื่อนแถบ Scroll Bar ด้านข้านลงมาจนกระทั่งพบหัวข้อ Cookie ซึ่งมี 3 ตัวเลือก ให้เราสามารถทำเครื่องหมายได้ หากคุณ
ไม่คิดที่จะปฏิเสธ Cookie ทั้งหลายให้เลือกหัวข้อ Always Accept Cookie หรือหากต้องการให้มีการเตือนก่อนทุกครั้งที่มีการส่ง Cookieมาให้เลือกหัวข้อ Prompt before
Accepting Cookie แต่หากต้องการปฏิเสธ Cookie ทุกชนิดที่ ส่งมาให้เลือกหัวข้อ Disable All Cookies Use
สำ หรับบราาวเซอร์ เนสเคป เนวิเกเตอร์นั้นก็ต้องเป็นเวอร์ชัน 4 ขึ้นไปเช่นเดียวกันจึงจะมีความสามารถในการควบคุม Cookie ได้ โดยเลือกจาก
Edit เมนู แล้วเลือก Preferences ซึ่งจะปรากฏ Dialog Box ขึ้นมา จากนั้นคลิกที่ Advance Setting แล้วจะมี 3 ตัวเลือกคือ Accept All Cookies, Accept only cookies
that get sent back to the originating server และ Disable Cookies ในเวอร์ชันที่ใหม่ขึ้นจะเพิ่มหัวข้อ Warn me before accepting a cookie มา
อีกทางเลือกหนึ่งในการป้องกัน Cookie คือการใช้โปรแกรมสำเร็จรูปซึ่งในปัจจบันมีหลายบริษัทที่พัฒนาโปรแกรมประเภทนี้ขึ้นมา โปรแกรมประ
เภท นี้ จะทำงานร่วมกับบราวเซอร์โดยผู้ใช้สามารถระบุชื่อเว็บที่ต้องการและไม่ต้อง การรับ Cookie ได้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูและศึกษาโปรแกรมเหล่านี้ได้จาก
http://www.cookiecentral.com/files.htm หรือ http://www.junkbusters.com/ht/en/links.html#nsclan

ที่มา : ลลิตา รัตนศรีทัน E-commerce September 2000

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น