วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ควรล้างแอร์รถเมื่อไหร่

   มีคำถามที่หลายคนยังได้รับข้อมูลมาต่างกันว่า เมื่อไหร่ควรล้างแอร์รถยนต์ของคุณ

     คำตอบที่ถูกต้องขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคน เช่น เส้นทางการใช้งาน มีสภาพถนนอย่างไร ฝุ่นมากหรือไม่ ลุยน้ำหรือเปล่า แต่ตามปกติประมาณ 1 ปีขึ้นไป หรือ 20,000 กิโลขึ้นไป

     ส่วนจะรู้ได้ไงว่าตู้แอร์ได้เวลาล้างแล้ว ให้สังเกตกลิ่นฝุ่น ถ้าเอาจมูกจ่อช่องลมแอร์แล้วมีกลิ่นอับ

     สำหรับวิธีทำความสะอาดตู้แอร์ มี 4 วิธี

     1.ล้างตู้แอร์แบบถอดตู้ ต้องรื้อตู้แอร์ แล้วเอาคอยล์เย็นมาล้างข้างนอก น้ำยาทำความสะอาดแตกต่างกันไปแล้วแต่ช่างจะใช้อะไรเพื่อประหยัดต้นทุน ราคาถูกก็ผงซักฟอก โซดาไฟ พวกนี้จะล้างออกยาก ดังนั้น เวลาประกอบกลับ เปิดแอร์จะรู้สึกว่ามีกลิ่นผงซักฟอก แสดงว่าล้างออกไม่หมด อาจกัดกร่อนคอยล์เย็นได้ และเมื่อสูดดมเข้าไป ไม่ส่งผลดีต่อระบบหายใจ ถ้าคนแพ้ ก็อาจแสบตา แสบจมูก การถอดล้างตู้แอร์แบบนี้ ต้องแวคเติมน้ำยาแอร์ใหม่ และต้องเปลี่ยนไดเออร์กับวาล์วความดัน ถ้าประหยัดงบ ไม่ยอมเปลี่ยน ท่อแอร์รั่วได้เพราะความชื้นเข้าไปอยู่ในระบบจากการถอดตู้แอร์

     2.การล้างแบบไม่ถอดตู้ เพื่อช่วยให้ทำความสะอาดง่ายขึ้น เสร็จเร็ว ทางร้านได้เงินไว โดยทั่วไปเครื่องล้างตู้แอร์จะกำหนดน้ำยาที่ต้องใช้เฉพาะสำหรับการล้าง แต่บ้างเอาผงซักฟอก โซดาไฟ ผสมลงไปเพื่อให้น้ำยาใช้ได้หลายคันขึ้น เวลาล้างน้ำยาออกจะมีปัญหา เพราะเครื่องไม่ได้ถูกกำหนดให้ล้างผงซักฟอก หรือโซดาไฟ ผลที่ได้อาจคาดไม่ถึง การล้างแบบนี้เหมาะกับรถใหม่ รถที่ล้างแอร์ปีละ 1 ครั้ง หรือเหมาะกับรถที่ดูแลตู้แอร์เป็นประจำ ถ้าใช้มา 7-8 ปี แล้ว ช่างแอร์ไม่ค่อยอยากล้างวิธีนี้ เพราะตู้แอร์อาจรั่วอยู่แล้ว แต่ฝุ่นไปอุดรูรั่วไว้ พอล้างเอาฝุ่นออก รอยรั่วก็ปรากฏ

     3.การฉีดสเปรย์ทำความสะอาดตู้แอร์ ไม่ต้องรื้อตู้ออกมา ฉีดสเปรย์ทำความสะอาดให้ทั่วคอยล์เย็น ก็เป็นอันเรียบร้อย คราบน้ำยาจะค่อยๆ ออกมาพร้อมกับน้ำแอร์ตามท่อน้ำทิ้ง ถ้าตู้แอร์ไม่สกปรกมาก วิธีนี้ก็พอใช้ได้ แต่คงต้องฉีดสเปรย์กันบ่อย 2-3 เดือนต่อครั้ง เพราะอยู่ในเมือง ฝุ่นจะเยอะ สเปรย์บางยี่ห้อจะช่วยขจัดกลิ่นด้วย ราคาค่าฉีดสเปรย์ รวมแล้วมากกว่าการล้างตู้แอร์แบบที่ 1 และที่ 2

     4.การใส่กรองแอร์ ไม่ใช่รถทุกรุ่นจะใช้ได้ เพราะกรองแอร์ก็ทำมาสำหรับรถอีกระดับ ช่วยกรองฝุ่นอีกวิธีหนึ่ง แต่อายุการใช้งานก็ประมาณ 5,000 กม. ต้องเปลี่ยนอันใหม่ ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านเข้าตู้แอร์ไม่สะดวก ลมแอร์ที่ออกมาก็จะอ่อนกำลังลง ลมที่ตีกลับจะมีผลต่อคอมแอร์ กรองแอร์สำหรับรถบางรุ่นราคาพอรับได้ แต่บางรุ่นราคาเป็นพันบาท ถ้าใช้วิธีนี้ในการทำความสะอาด ในระยะ 1 ปี ก็เสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการทำความสะอาด แบบที่ 1 และที่ 2

     ส่วนการป้องกันให้ใช้แอร์ได้นานๆ ไม่ต้องล้างบ่อยๆ วิธีง่ายๆ ลงรถเมื่อไหร่เคาะพรมเมื่อนั้น เพราะพัดลมแอร์อยู่ใกล้กับพรมรองเท้า ถ้าสะสมไว้มันจะดูดเข้าไปเรื่อยๆ ทำให้ตู้แอร์ตันเร็ว ถ้าทำได้เป็นนิสัย ยืดอายุล้างตู้แอร์ได้กว่า 2 ปีเลยทีเดียว
 
เครดิต : http://auto.sanook.com

วันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

17 คำสอนขององค์ทะไลลามะ สำหรับมนุษย์งาน



17 คำสอนขององค์ทะไลลามะ สำหรับมนุษย์งาน

1. คิดไว้เสมอว่า ‘หวังในความสำเร็จมาก ก็เสี่ยงที่จะสูญเสียมาก’

2. ยามใดที่แพ้ ให้นำสิ่งที่แพ้มาเป็นบทเรียน

3. กฎ 3 อาร์น่าคิด Respect for self คือเคารพตัวเอง, Respect for others เคารพผู้อื่น และ Responsibility คือรับผิดชอบในทุกๆ การกระทำของตน

4. บางครั้งการที่มาเอาตัวไปข้องเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองอยากได้ใคร่มีมากเกินไป ก็อาจทำให้คุณได้ในสิ่งนั้นอย่างไม่น่าเชื่อ

5. เรียนรู้กฎให้ละเอียดถ่องแท้ เผื่อว่าคุณอาจหาทางแหกกฎได้อย่างถูกวิธี

6. อย่าให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายมิตรภาพที่ยิ่งใหญ่

7. เมื่อใดที่รู้สึกว่าทำผิด ให้รีบแก้ไขให้ถูกต้อง

8. ใช้เวลาอยู่กับตัวเองในทุกๆ วัน

9. อ้าแขนให้กว้างเพื่อรับสิ่งท้าทายในชีวิต และเมื่อใดที่มีสิ่งล้ำค่าเข้ามา ก็อย่าปล่อยมันไป

10. จงจำไว้ว่าบางครั้ง ความเงียบก็เป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับบางเรื่อง

11. ใช้ชีวิตให้ดีอย่างคนมีเกียรติ เพราะเมื่อตอนเราแก่ตัวลง จะได้มองย้อนกลับไปในอดีตอย่างมีความสุข

12. บรรยากาศในบ้านแสนสุขเป็นพื้นฐานที่ดีของการดำรงชีวิต

13. เมื่อไม่เห็นด้วยกับคนที่เราแคร์ในบางเรื่อง ให้ทะเลาะกันได้เฉพาะในปัญหาปัจจุบัน อย่าขุดคุ้ยเรื่องอดีต

14. มีความรู้อะไรก็ให้รู้จักแบ่งปัน เพราะความรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีวันตาย (ตัวตายแต่ชื่อยัง ถ้าสร้างชื่อเสียงในทางที่ดี)

15. รู้จักรักและเคารพโลก

16. ในแต่ละปี ให้เดินทางไปในที่ที่คุณยังไม่เคยไปมาก่อน

17. ประเมินความสำเร็จในสิ่งที่คุณไม่เคยทำสำเร็จ เพื่อจะได้มุ่งมั่นทำมันให้สำเร็จ

เรื่องส่งต่อกันมา
ภาพ AP

Sundial Dreams เพลงบรรเลงเพราะ ๆ เพิ่งได้ชื่อมา

Sundial Dreams - Kevin Kern - 1/2011

กำหนดปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติประจำปี

อุทยาน แห่งชาติส่วนใหญ่จะเปิดให้ท่องเที่ยวได้ตลอดปี แต่จะมีบางแห่งมีกำหนดปิดเป็นบางส่วนหรือทั้งหมดของพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทั้งนี้ เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวและธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติ มีการฟื้นฟูสภาพธรรมชาติ เกิดการกระจายตัวของการท่องเที่ยวไปในแหล่งท่องเที่ยวอื่น ประกอบกับแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่ง มีความเสี่ยงต่อภัยธรรมชาติอันเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ไม่ปลอดภัยในการเข้าไปท่องเที่ยวและพักแรม <<< ดูประกาศกรม คลิกที่นี่ >>>
สำหรับ อุทยานแห่งชาติบางแห่ง มีกำหนดเปิดการท่องเที่ยวเฉพาะจุดในแต่ละปีไม่แน่นอน ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ เปิดให้ท่องเที่ยวยอดเขาพระบาท ซึ่งเป็นสถานที่มีหินรูปร่างแปลกๆ มีตำนานเกี่ยวข้องกัน เช่น หินบาตรคว่ำ ศิลาเจดีย์ ถ้ำฤาษี ลานแข่งรถพระอินทร์ หินรูปเต่าและรูปช้าง  
 
อุทยานแห่งชาติ กำหนดปิด
ของทุกปี
บริเวณที่ปิดการท่องเที่ยว
ภาคเหนือ
ขุนแจ 1 มี.ค. - 31 ต.ค. พักกางเต็นท์ เดินศึกษาธรรมชาติ ดูนก ชมทะเลหมอก ปั่นจักรยาน และถ่ายภาพ
ขุนน่าน 1 ก.ค. - 30 ก.ย. ลำน้ำว้าตอนบน
ขุนสถาน 1 ก.ค. - 30 ก.ย. ถ้ำละโอ่ง น้ำตกผาแดง น้ำตกขุนลี น้ำตกตาคลี น้ำตกน้ำลีหลวง และดอยธง
คลองตรอน 15 ม.ค. - 15 พ.ค. ยอดภูเมี่ยง
ดอยฟ้าห่มปก 1 พ.ค. - 30 ก.ย. ยอดดอยฟ้าห่มปก
ดอยภูคา 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. เดินป่าท่องธรรมชาติ เที่ยวน้ำตก เที่ยวถ้ำ และพักแรมดอยภูแว
1 ก.ค. - 30 ก.ย. ล่องแก่งน้ำว้า
ดอยสุเทพ-ปุย 1 พ.ค. - 30 ก.ย. ลานกางเต็นท์ยอดดอยปุย
ดอยหลวง 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. น้ำตกปูแดง น้ำตกวังแก้ว และน้ำตกจำปาทอง
ตาดหมอก 1 ก.ค. - 30 ก.ย. น้ำตกตาดหมอก และน้ำตกสองนาง
ทุ่งแสลงหลวง 1 ธ.ค. - 30 ก.ย. ทุ่งโนนสน
1 ก.ย. - 31 ต.ค. น้ำตกแก่งโสภา ถ้ำเดือนถ้ำดาว ถ้ำพระวังแดง สะพานสลิง (จุดกางเต็นท์พักแรม)
น้ำตกชาติตระการ 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. น้ำตกชาติตระการ น้ำตกนาจาน ผาแดง และผากระดานเลข
ภูซาง 1 ก.ค. - 30 ก.ย. ทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าพรุภาคเหนือภูชมดาว (ดอยผาหม่นน้อย)
แม่เมย 1 พ.ค. - 31 ต.ค. บริเวณถ้ำแม่อุสุ
แม่ยม 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. แก่งเสือเต้น
แม่วงก์ 1 ก.ค. - 30 ก.ย. ยอดเขาโมโกจู น้ำตกแม่กระสา และน้ำตกแม่เรวา
เวียงโกศัย 1 ก.ค. - 30 ก.ย. น้ำตกแม่เกิ้งหลวง
ศรีลานนา 1 ส.ค. - 31 ต.ค. น้ำตกม่อนหินไหล และน้ำตกป่าพูล
ศรีสัชนาลัย 1 มิ.ย. - 31 ต.ค. น้ำตกตาดดาว
ห้วยน้ำดัง 1 ก.ค. - 30 ก.ย. เส้นทางเดินป่าและล่องแพลำน้ำแม่แตง
ภาคกลาง/ตะวันออก/ตะวันตก
แก่งกระจาน 1 ส.ค. - 31 ต.ค. บ้านกร่าง และเขาพะเนินทุ่ง
ลำคลองงู 1 มิ.ย. - 29 ก.พ. ถ้ำนกนางแอ่น และถ้ำเสาหิน
เขาแหลมหญ้า - หมู่เกาะเสม็ด 1 พ.ค. - 30 ก.ย. เกาะทะลุ และเกาะกุฎี
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เขาใหญ่ 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. เส้นทางศึษาธรรมชาติ และบริเวณจุดชมวิวผาเดียวดาย
ภูกระดึง 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. ยอดภูกระดึง
ผาแต้ม 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. ป่าดงนาทาม
ภาคใต้
แก่งกรุง 1 ต.ค. - 25 ธ.ค. กิจกรรมท่องเที่ยวลำน้ำคลองยัน และเส้นทางศึกษาธรรมชาติบ้านบางจำ - ที่ทำการการอุทยานแห่งชาติ
เขาปู่-เขาย่า 15 พ.ย. - 15 ธ.ค. น้ำตกเหรียงทอง น้ำตกหนานปลิว น้ำตกควนประ น้ำตกปากแจ่ม น้ำตกน้ำปลิว และน้ำตกธาราวารินทร์
เขาพนมเบญจา 10 มิ.ย. - 31 ต.ค. ยอดเขาพนม
เขาสก 1 พ.ค. - 31 ต.ค. เส้นทางชมบัวผุด กม.111
1 มิ.ย. - 14 ธ.ค. น้ำตกสิบเอ็ดชั้น น้ำตกบางเลียบน้ำ ตั้งน้ำ น้ำตกโตนกลอย น้ำตกธารสวรรค์ ถ้ำน้ำทะลุ ถ้ำสี่รู และถ้ำค้างคาว
เขาหลวง 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. ยอดเขาหลวง
คลองพนม 1 พ.ค. - 31 ต.ค. เส้นทางชมบัวผุดบริเวณเขาหลังบ้านถ้ำผึ้ง
ตะรุเตา 16 พ.ค. - 15 พ.ย. หมู่เกาะอาดัง-ราวี
ใต้ร่มเย็น 15 ส.ค. - 30 พ.ย. เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกล เขาหนอง-สันเย็น และน้ำตกทุกแห่งในเขตอุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น
ธารเสด็จ - เกาะพะงัน 1 ต.ค. - 23 ธ.ค. น้ำตกธารเสด็จ
ศรีพังงา 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. น้ำตกตำหนัง น้ำตกโตนอู และน้ำตกโตนเด้ง
หมู่เกาะชุมพร 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. หมู่เกาะชุมพร (เฉพาะหมู่เกาะ)
หมู่เกาะพยาม 16 พ.ค. - 15 พ.ย. อ่าวไข่เต่า เกาะช้าง
หมู่เกาะเภตรา 1 พ.ค. - 31 ต.ค. หมู่เกาะเภตรา (เฉพาะหมู่เกาะ)
หมู่เกาะลันตา 16 พ.ค. - 31 ต.ค. เกาะรอก หินแดง - ม่วง และเกาะตุกนลิมา (เกาะห้า)
หมู่เกาะสิมิลัน 1 พ.ค. - 31 ต.ค. ปิดทั้งหมด
หมู่เกาะสุรินทร์ 1 พ.ค. - 31 ต.ค. ปิดทั้งหมด
หมู่เกาะอ่างทอง 1 พ.ย. - 30 พ.ย. ปิดทั้งหมด
หาดขนอม - หมู่เกาะทะเลใต้ 1 พ.ย. - 31 ม.ค. กิจกรรมล่องเรือในทะเล
1 พ.ย. - 29 ก.พ. น้ำตกท่าน้อย น้ำตกหนานไผ่ และน้ำตกเสม็ดชุน
1 พ.ย. - 29 ก.พ. ถ้ำวังทอง
หาดเจ้าไหม 15 พ.ค. - 15 พ.ย. เกาะมุกต์ ถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะเชือก และเกาะแหวน
แหลมสน 16 พ.ค. - 15 พ.ย. หมู่เกาะกำ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/close_np.asp?lg=1 

นิตยสารฟอร์บส์จัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีไทย

580586443189531.jpg
รายชื่อมหาเศรษฐีไทยทั้ง 50 อันดับ

1.ธนินทร์ เจียรวนนท์ ประธานเครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลค่าทรัพย์สิน 3.93 แสนล้านบาท

2.ตระกูลจิราธิวัฒน์ เครือเซ็นทรัล มูลค่าทรัพย์สิน 3.83 แสนล้านบาท

3.เจริญ สิริวัฒนภักดี บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มูลค่าทรัพย์สิน 3.30 แสนล้านบาท

4.ตระกูลอยู่วิทยา กลุ่มกระทิงแดง มูลค่าทรัพย์สิน 2.43 แสนล้านบาท

5.กฤตย์ รัตนรักษ์ บริษัทกรุงเทพ วิทยุโทรทัศน์จำกัด ผู้บริหารช่อง7สี มูลค่าทรัพย์สิน 1.21 แสนล้านบาท

6.จำนงค์ ภิรมย์ภักดี ประธานบริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ มูลค่าทรัพย์สิน 7.48 หมื่นล้านบาท

7.วานิช ไชยวรรณ ประธานกรรมการ บมจ.ไทยประกันชีวิต มูลค่าทรัพย์สิน 6.55 หมื่นล้านบาท

8.วิชัย มาลีนนท์ ประธานกรรมการและผู้ร่วมก่อตั้ง BEC World มูลค่าทรัพย์สิน 6.24 หมื่นล้านบาท

9.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เครือกรุงเทพดุสิตเวชการ มูลค่าทรัพย์สิน 5.62 หมื่นล้านบาท

10.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มูลค่าทรัพย์สิน 5.30 หมื่นล้านบาท

11.วิชัย ศรีวัฒนประภา (นามสกุลเดิม รักศรีอักษร) กลุ่มคิง เพาเวอร์ มูลค่าทรัพย์สิน 4.99 หมื่นล้านบาท

12.บุญชัย เบญจรงคกุล ผู้ก่อตั้ง บมจ.โทเทิ่ล แอคเซส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค มูลค่าทรัพย์สิน 4.21 หมื่นล้านบาท

13.พรเทพ พรประภา กลุ่มสยามกลการ มูลค่าทรัพย์สิน 4.06 หมื่นล้านบาท

14.ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ผู้ก่อตั้ง บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท มูลค่าทรัพย์สิน 3.9หมื่นล้านบาท

15.คีรี กาญจนพาสน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ มูลค่าทรัพย์สิน 3.74 หมื่นล้านบาท

16.ประยุทธ มหากิจศิริ กลุ่มควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักท์ส (เนสกาแฟ) มูลค่าทรัพย์สิน 3.59 หมื่นล้านบาท

17.วิชัย ทองแตง ถือหุ้นเครือกรุงเทพดุสิตเวชการ,บมจ.ซีทีเอช มูลค่าทรัพย์สิน 3.43 หมื่นล้านบาท

18.อนันต์ อัศวโภคิน บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มูลค่าทรัพย์สิน 3.37 หมื่นล้านบาท

19.ประณีตศิลป์ วัชรพล หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ มูลค่าทรัพย์สิน 3.28 หมื่นล้านบาท

20.William Heinecke บริษัท Minor International มูลค่าทรัพย์สิน 3.12 หมื่นล้านบาท

21.สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ถือหุ้นบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ,ถือหุ้นธุรกิจธนาคาร ซีเมนต์ มูลค่าทรัพย์สิน 2.9 หมื่นล้านบาท

22.Aloke Lohia บริษัท Indorama Ventures มูลค่าทรัพย์สิน 2.85หมื่นล้านบาท

23.อิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการกลุ่มน้ำตาลมิตรผล มูลค่าทรัพย์สิน 2.84 หมื่นล้านบาท

24.พิชญ์ โพธารามิก บมจ.จัสมินอินเตอร์เนชั่นแนล มูลค่าทรัพย์สิน 2.68 หมื่นล้านบาท

25.สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการกลุ่มไทยซัมมิท มูลค่าทรัพย์สิน 2.34 หมื่นล้านบาท

26.สรรเสริญ จุฬางกูร ถือหุ้นบริษัทไทยซัมมิท และบริษัทไทยสตีลเคเบิ้ล มูลค่าทรัพย์สิน 2.23 หมื่นล้านบาท

27.วิทูร สุริยวนากุล บริษัท สยาม โกลบอล เฮ้าส์ มูลค่าทรัพย์สิน 2.18 หมื่นล้านบาท

28.เพชร และ รัตน์ โอสถานุเคราะห์ กลุ่มบริษัทโอสถสภา มูลค่าทรัพย์สิน 1.97 หมื่นล้านบาท

29.พงษ์ศักดิ์ วิทยากร ผู้ร่วมก่อตั้งกรุงเทพดุสิตเวชการ มูลค่าทรัพย์สิน 1.87 หมื่นล้านบาท

30.นิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้นบริษัทโอสถสภา มูลค่าทรัพย์สิน 1.79 หมื่นล้านบาท

31.เฉลิม อยู่วิทยา กลุ่มกระทิงแดง มูลค่าทรัพย์สิน 1.72 หมื่นล้านบาท

32.ไกรสร จันศิริ ประธาน บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ มูลค่าทรัพย์สิน 1.7 หมื่นล้านบาท

33.สมยศ และ จรีพร อนันตประยูร บริษัทดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด มูลค่าทรัพย์สิน 1.64 หมื่นล้านบาท

34.จำรูญ ชินธรรมมิตร์ กลุ่มน้ำตาลขอนแก่น มูลค่าทรัพย์สิน 1.59 หมื่นล้านบาท

35.วิชา พูลวรลักษณ์ เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ มูลค่าทรัพย์สิน 1.5 หมื่นล้านบาท

36.ปลิว ตรีวิศวเวทย์ บมจ. ช.การช่าง มูลค่าทรัพย์สิน 1.44 หมื่นล้านบาท

37.นิจพร จรณะจิตต์ และ เปรมชัย กรรณสูต ถือหุ้น บมจ. อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ มูลค่าทรัพย์สิน 1.26 หมื่นล้านบาท

38.Nishita Shah Federbush บมจ.พรีเชียส ชิปปิ้ง มูลค่าทรัพย์สิน 1.19 หมื่นล้านบาท

39.วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ บมจ.สามารถ คอร์ปอเรชั่น มูลค่าทรัพย์สิน 1.15 หมื่นล้านบาท

40.สมโภชน์ อาหุนัย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ มูลค่าทรัพย์สิน 1.03 หมื่นล้านบาท

41.เฉลิม หาญพาณิชย์ บมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล มูลค่าทรัพย์สิน 1.01หมื่นล้านบาท

42.รุ่งโรจน์ แสงศาสตรา บมจ.ไดนาสตี้ เซรามิค มูลค่าทรัพย์สิน 9.98 พันล้านบาท

43.วันดี กุญชรยาคง ประธานกรรมการ SPCG มูลค่าทรัพย์สิน 9.36 พันล้านบาท

44.ทัศพล แบเลเว็ลด์ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.เอเชียเอวิเอชั่น มูลค่าทรัพย์สิน 9.04 พันล้านบาท

45.ประชัย เลี่ยวไพรัตน์และครอบครัว บมจ.ทีพีไอ โพลีน มูลค่าทรัพย์สิน 8.42 พันล้านบาท

46.พรดี ลี้อิสระนุกูล และครอบครัว กลุ่มบริษัทสิทธิผล มูลค่าทรัพย์สิน 8.27 พันล้านบาท

47.ประทีป ตั้งมติธรรม บมจ.ศุภาลัย มูลค่าทรัพย์สิน 8.11 พันล้านบาท

48.วรวิทย์ วีรบวรพงศ์ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตร เคมิคัลส์ มูลค่าทรัพย์สิน 6.7 พันล้านบาท

49.อนันต์ อาญจนพาสน์ บมจ.บางกอกแลนด์ มูลค่าทรัพย์สิน 6.6 พันล้านบาท

50.วิโรจน์ ธนาลงกรณ์ บริษัท ซาบีน่า มูลค่าทรัพย์สิน 6.24 พันล้านบาท 


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01qa3dOemc1Tnc9PQ==&subcatid=

การผ่าแตงโมให้เก็บเมล็ดออกได้ง่าย ๆ

การทำ connectable = yes (ฉบับสมบูรณ์)

การทำ connectable = yes (ฉบับสมบูรณ์)
1.connectable = yes คืออะไร? และทำไมต้องทำให้เป็น yes?
ใน การใช้งานเครือข่ายบิททอแรนท์นั้น ผู้ใช้งานจำเป็นต้องติดต่อกับ tracker (server) และ เครื่องผู้ใช้งานอื่น เพื่อรับ-ส่งไฟล์ระหว่างกันและกัน แต่การเชื่อมต่อนั้น ๆ จะทำได้ดีหรือไม่
ซึ่ง ค่าสถานะการเชื่อม ต่อนี้ หากเราตั้งค่าให้การเชื่อมต่อจากเครื่องอื่นสามารถติดต่อกับเครื่องเราได้ สะดวกหรือมีประสิทธิภาพ ก็จะได้รับสถานะการเชื่อมต่อว่า “เชื่อมต่อได้ (หรือ connectable = yes)” แต่ถ้าในระหว่างกระบวนการเชื่อมต่อติดปัญหาใด ๆ เช่นติด Firewall ติด Router (ไม่รู้จะไปเครื่องไหนดี) ฯลฯ  ก็จะทำให้สถานะของคุณเป็น “ไม่เชื่อมต่อ (connect=no)”
ประโยชน์ที่ได้จากการที่ connect=yes
1. คุณจะสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องอื่น ๆ (โดยเฉพาะกับที่เป็น yes เหมือนกัน) ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ ดูดและปล่อยได้เร็วยิ่งขึ้น
****************************************************
2. แล้วทำอย่างไร ให้ connect = yes?
ผมจะทำเป็นลำดับขั้นตอนให้คุณดูตามไปเรื่อย ๆ นะครับ ไปดูกันเลย…
ขั้นแรกที่สำคัญที่สุด… คุณใช้เน็ทของอะไร?
A. เน็ทบ้านคุณเอง แบบ ADSL
B. เน็ทบ้านคุณเอง แบบดาวเทียม
C. เน็ทบริษัท / โรงเรียน / มหาวิทยาลัย / หอพัก หรือสถานที่อื่นที่เป็นเน็ทแชร์จากส่วนกลาง
D. เน็ทผ่านระบบ GPRS/EDGE
A หากคุณใช้เน็ทบ้านแบบ ADSL
สิ่งที่คุณต้องเตรียม…
- IP (ภายใน) เครื่องของคุณ (วิธีการดู IP เครื่องของคุณ คลิกที่นี่)
- ยี่ห้อและรุ่นของ Router หรือ Modem เช่น D-Link DSL-500T (D-Link คือยี่ห้อ, DSL-500T คือรุ่น) ดูได้ฉลากที่เครื่องของคุณ หรือ บนกล่อง ฯลฯ
B หากคุณใช้เน็ตบ้านแบบดาวเทียม
เนื่องจากผมไม่เคยใช้ ลองอ่านจาก กระทู้นี้ ดู (ยังไม่ชัดเจนว่าทำได้หรือไม่?)
C เน็ทบริษัท / โรงเรียน / มหาวิทยาลัย / หอพัก หรือสถานที่อื่นที่เป็นเน็ทแชร์จากส่วนกลาง
ให้คุณตอบคำถามต่อไปนี้….
1) สำหรับกรณีนี้ คุณเป็นผู้ดูแลระบบ หรือมีสิทธิ์ในการแก้ไขค่าของ router ส่วนกลางที่ใช้ต่อเน็ทได้หรือไม่?
- ใช่, ฉันคือผู้ดูแลระบบ (ใช้วิธีเดียวกันกับแบบ A)
- ไม่ใช่, ฉันเป็นเพียงผู้ใช้งานธรรมดาเท่านั้น      (เสียใจด้วย… คุณไม่สามารถทำให้ connect=yes   เองได้ )   หากต้องการทำให้ connect=yes จริง ๆ ให้อ่าน ข้อ 3 ด้านล่างสุด
2) ระบบการแชร์ internet ในองค์กรของคุณ เป็นแบบใด?
- แบบอยู่ในเครือข่ายภายในเดียวกันกับ router คือทุกเครื่องต่อตรงไปยัง router (ใช้วิธีเดียวกันกับแบบ A)
- แบบใช้ server เป็น Firewall/Proxy Server ควบคุมการใช้งานอินเทอร์เน็ตในองค์กร (เสียใจด้วย… ขณะนี้ผมยังไม่ทราบวิธี forward ต่อจาก server ไปยัง Client หากใครทราบช่วยบอกผมที… หากต้องการทำให้ connect=yes จริง ๆ ให้อ่านข้อ 3 ด้านล่างสุด
D หากคุณใช้เน็ตผ่านระบบ GPRS/EDGE
สั้น ๆ ง่าย ๆ ครับ ทำไม่ได้ครับ ใช้โหลดหน้าเว็บมาคุยเฉย ๆ ก็ลำบากแล้ว  ต่อให้ใช้ COLO ตามข้อ 3 เวลาโหลดกลับมาเครื่องเราก็คงไม่ไหว ทางเดียวที่จะทำได้คือใช้โคแล้วเอา Harddisk ไป Jump เอาเวลาโหลดเสร็จน่ะครับ
ขั้นที่ 2. ปิด Firewall หรือ กำหนดกฏ (Policy) ให้อนุญาตสำหรับโปรแกรมบิทของคุณ
- หากคุณใช้ Windows XP คุณจำเป็นต้องตรวจสอบ ดังนี้ (Windows Vista จะคล้าย ๆ กัน)
1) ไปที่ Start–>Control Panel–>Windows Firewall
2) เลือก off เพื่อปิดการใช้งาน firewall
http://img.thailandtorrent.com/show.php?id=bc6e32ab1c8c9a30e40f096cfb559505
3) หากต้องการใช้งาน firewall สามารถเลือก on ได้ แล้วไปตั้งกฎยกเว้นสำหรับโปรแกรมที่ท่านใช้โหลดบิท ในแท็บ exception แทนได้
http://img.thailandtorrent.com/show.php?id=a55ef0b74032b3f21bc0f62bed594018
4) กด OK
- หากในเครื่องของคุณติดตั้งโปรแกรมที่มี Firewall อยู่ด้วย เช่น โปรแกรมป้องกันความปลอดภัยที่ลงท้ายว่า… Internet Security หรือ Total Security ต่าง ๆ (เช่น Norton Internet Security, Kaspersky Internet Security, ฯลฯ) หรือ โปรแกรมที่เป็น Firewall เช่น Zone Alarm ฯลฯ ให้หาคำสั่ง firewall ของโปรแกรมนั้น ๆ และกำหนดกฏให้อนุญาตโปรแกรม หรือ port ที่ใช้งาน (ดูในวิธีใช้ของโปรแกรมนั้น ๆ)
ขั้นที่ 3. กำหนด Port ที่ใช้งานให้เป็นแบบตายตัว
- ตัวอย่างการกำหนด port ให้กับโปรแกรม uTorrent
http://img.thailandtorrent.com/show.php?id=ec91a949095532ee914a7f1e69fb7f0d
- คุณสามารถเลือกเลข port เป็นเลขอะไรตามที่คุณต้องการก็ได้ แต่ควรเป็นหลักหมื่นขึ้นไป เพื่อไม่ให้ชนกับ port ที่บางโปรแกรมใช้ และไม่เกิน 65535
ขั้นที่ 4. Forward Port ที่ Router
***ลองดูวิธีการ Forward Port ที่นี่ ก่อน ว่ามีรุ่น Router ของคุณหรือไม่? ถ้าไม่มีให้ลองทำตามตัวอย่างข้างล่างดูครับ…
1) ดู IP ภายใน ของเครื่องที่ต้องการใช้งาน (วิธีการดู IP ภายใน คลิกที่นี่)
2) เข้าไปหน้าตั้งค่า router โดยอาจจะลองค้นหาวิธีการตั้งค่าในเว็บ port-forward.com โดยเลือกยี่ห้อ และรุ่นของเราท์เตอร์ของคุณ (ถ้าไม่มีก็ลองเลือกรุ่นที่ใกล้เคียงที่สุดหน้าตาและขั้นตอนจะคล้าย ๆ กัน) แล้วเลือกโปรแกรมที่ใช้
***ในส่วนของขั้นตอน โดยทั่ว ๆ ไปจะคล้าย ๆ กัน (ผมใช้ของ router D-Link DSL-500T เป็นตัวอย่าง ใครใช้รุ่นอื่นให้ลองดูวิธีตั้งค่าที่ลิงค์ข้างบน หรือ Google หรือลองเอาตัวอย่างไปปรับใช้ดูครับ) โดยมีขั้นตอนประมาณนี้…
3) เปิด browser เช่น Internet Explorer, Firefox ขึ้นมา (แนะนำให้ใช้ IE)
4) ใส่ ip ของ router นั้น ๆ ในแถบ address bar กด enter (หากไม่ทราบ อาจจะดูจาก Gateway ของเครื่องคุณก็ได้ว่าไปออกที่ IP อะไร ส่วนใหญ่จะใช้ 192.168.1.1)
5) จะปรากฏหน้าต่างถาม password
- ถ้าเป็น router แถมมากับเน็ท มักจะบอกมาในคู่มือ หรือ ตอนติดตั้ง หากจำไม่ได้ให้โทรสอบถามที่ศูนย์ (TOT, TT&T, True ฯลฯ) ได้เลย
- ถ้าเป็น router ที่ซื้อมาเอง ให้ลองอ่านคู่มือในกล่อง แต่โดยทั่วไปมักจะตั้ง username เป็น admin และ password admin
6) จะปรากฏหน้าต่างตั้งค่าของ router นั้น ๆ
7) ค้นหาเมนู NAT หรือ Virtual Server (แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นจะมีเมนูไม่เหมือนกันต้องลองหาดู หรือดูในคู่มือ หรือดูในเว็บ port-forward เอาครับ)
8 ) เพิ่มกฏให้ forward port ที่เราใช้ ไปยัง ip เครื่องของเรา port แต่ละ port สามารถ forward ไปได้เครื่องเดียวเท่านั้น
http://img.thailandtorrent.com/show.php?id=a825d9ebfd5bd19054fbfe76fff2e198
9) หาและเลือกคำสั่ง save&reboot router (ถ้าไม่ทำ เวลาคุณปิดเราท์เตอร์พอเปิด คุณจะต้องตั้งค่า forward port ใหม่)
10) หากก่อนหน้านี้คุณโหลดงานไว้ ให้กดหยุด และกดปุ่ม reset peer ที่ ข้อมูลส่วนตัว แล้วจึงเริ่มงานอีกครั้ง
***โดยทั่วไปถ้าทำขั้นตอนนี้เสร็จแล้ว จะสามารถทำให้ connectable=yes ได้แล้ว แต่หากไม่ได้ ให้ลองวิธีการต่อไปนี้เพิ่มเติม
ขั้นที่ 5. ค้นหา Port ที่สามารถใช้งานได้
บาง ครั้ง จากสภาพแวดล้อม หรือข้อจำกัดต่าง ๆ อาจทำให้ผู้ใช้งานบางคน ต้องใช้บาง port ที่เหมาะสมเท่านั้น จึงจะทำให้ connectable=yes ได้ วิธีการง่าย ๆ ที่จะตรวจสอบว่า ต้องใช้ port ใด คือใช้โปรแกรม scan port (คลิกตรงนี้เพื่อดาว์นโหลดโปรแกรม)
หมายเหตุ: วิธีการใช้งานโปรแกรมคือจะทำการตรวจสอบ port ในช่วงที่กำหนดว่ามี port ใดที่เปิดไว้อยู่แล้วหรือไม่ ถ้าหากพบ ก็ให้นำ port นั้นมาใช้งานได้เลย
ขั้นที่ 6. เปลี่ยน router
หาก ยังไม่สามารถทำให้เป็น yes ได้ ลองยืม router เพื่อนมาเปลี่ยนดู อาจเกิดจาก router เดิมเสีย หรือ ไม่ support การ forward port ก็ได้ (โดยเฉพาะ router ที่แถมมามักจะเป็นยี่ห้อที่ไม่เป็นที่นิยม และเมนูค่อนข้างใช้ยาก)
**หาก คุณทำตามที่กล่าวมาทั้งหมดแล้ว ยังใช้งานไม่ได้ แสดงว่า คุณไม่สามารถทำให้ connect=yes เองได้ หากต้องการทำให้ connect=yes จริง ๆ ให้ลองทำตามวิธีด้านล่าง
***Google ช่วยคุณในการหาวิธี forward port ได้ โดยใส่ยี่ห้อ รุ่น ของเราท์เตอร์ และคำว่า forward port ลงไป
***************
ขอบคุณ เครดิตเว็บเพื่อนบ้านทุกคน  แหล่งความรู้ที่ได้มา…
******************
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=7bcc8379f96a3e8a

การใช้งานโปรแกรม Easy CD-DA Extractor

** การใช้งานโปรแกรม Easy CD-DA Extractor **
เก็บไว้อ่านเพราะนาน ๆ จะได้ใช้  ทำไม่เป็นได้ทุกที

เขียนโดย คุณ มังกรทะยาน



5379510502b2aeeb59ce2700025d868434.jpg



7644510502b2aeeb59ce2700025d800703.jpg



  • ขั้นตอนการ Rip CD เพลงลง HDD



    1. เลือกแถบที่1

    2. เลือก CD Romที่ใส่แผ่น

    3. เลือกสปีด อันนี้เลือกค่าตามมาตรฐานของโปรแกรม

    4,5,6,7. ใส่รายละเอียดของแผ่น เช่นนักร้อง อัลบั้ม ประเภทของเพลง

    8. เลือกเพลงที่ต้องการ Rip

    9,10. เลือกโฟลเดอร์ปลายทางเพื่อจัดเก็บไฟล์ที่แปลงแล้ว

    11. เลือกชนิดของไฟล์ที่ต้องการแปลงจากแผ่น CDA>ให้เป็น MP3/OGG/WAV/FLAC

    12. เลือกขนาดที่จะบีบอัด ค่าตัวเลขยิ่งมากเสียงยิ่งดี แต่กินพื้นที่จัดเก็บยิ่งมาก

    14. คลิกซ้ายเพื่อใส่ชื่อเพลงลงไป

    15. กดปุ่ม COPPYเพื่อทำการแปลงไฟล์




    9520510502b2aeeb59ce2700025d709353.jpg


     
  • ขั้นตอนการแปลงไฟล์ที่มีอยู่ใน HDD หรือจากแผ่น



    1. คลิกที่แถบ1

    2. หาโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์เพลงที่มีอยู่ใน HDD หรือจากในแผ่น

    3. ไฟล์เพลงจะขึ้นที่นี่

    4. เลือกเพลงที่จะแปลง ลากมาที่นี่

    5. เลือกชนิดของไฟล์ที่ต้องการแปลงให้ออกมาเป็นตามต้องการ

    6. เลือกขนาดการบีบอัดไฟล์เสียง ค่ายิ่งมากเสียงยิ่งดี แต่กินพื้นที่จัดเก็บ

    7. เลือกโฟลเดอร์ปลายทางที่จัดเก็บไฟล์ที่แปลงออกมาแล้ว

    8. เริ่มการทำแปลงไฟล์


    ** หากมีไฟล์ .cue ให้ใช้ไฟล์นี้ในการเพิ่มข้อมูล หรือ ลากไฟล์นี้แทนไฟล์ออดิโอ**



    2978510502b2aeeb59ce2700025d619319.jpg


     
  • ขั้นตอนการแปลงเพลง MP3/OGG/WAV เป็น CDA แล้วเขียนลงแผ่น



    1. คลิกที่แถบ 1

    2. หาโฟลเดอร์ที่เก็บไฟล์

    3. เปิดไฟล์ที่การแปลง+เขียนลงแผ่น

    4. ลากไฟล์มาลงที่นี่

    5. เลือกเครื่องเขียนแผ่น

    6. เลือกความเร็วในการเขียนแผ่น ควรใช้ที่ความเร็วต่ำ เพื่อเปิดได้กับเครื่องเล่นแผ่นทุกชนิด

    7. ช่องบอกเวลาที่ใช้ไปและเนื้อที่ของแผ่นที่เหลืออยู่

    8. เริ่มการแปลง+เขียนลงแผ่น

    ** หากมีไฟล์ .cue ให้ใช้ไฟล์นี้ในการเพิ่มข้อมูล หรือ ลากไฟล์นี้แทนไฟล์ออดิโอ**




    7934510502b2aeeb59ce2700025d832443.jpg



    เครดิต : http://www.justusers.net/articles/multimedia/easycd/easy.htm ( คุณมังกรทะยาน )

วารีบำบัด ร้อนสลับเย็น กับผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง

209911882294470.jpg

หลังน้ำลด ลมหนาว เป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนต้องเตรียมรับมือ การบรรเทาลมหนาวโดยการอาบน้ำอุ่นก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง
แต่ ใครจะรู้ว่าเทคนิคการอาบน้ำอย่างง่าย ๆ กลับส่งผลดีต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง  นั่นคือวารีบำบัดแบบการอาบน้ำร้อนสลับเย็น หรือที่เรียกว่า Contrast Hydro Therapy  


          วารีบำบัดมีประวัติมายาวนาน แต่เริ่มมีแพร่หลายอย่างจริงจังเมื่อพระชาวเยอรมันชื่อ เซบาสเตียน คไนพ์ (1821–1897) ติด เชื้อป่วยเป็นวัณโรค ท่านรักษาตัวเองโดยการไปแช่ตัวในธารน้ำเย็นละแวกที่พำนัก แช่ทุกวันแม้ในวันที่อากาศหนาว จนชาวบ้านนินทาว่าท่านคงเพี้ยนและคงตายในเวลาอันสั้น แต่นอกจากไม่ตายท่านกลับดูแข็งแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็เลยใช้วิชาแช่น้ำรักษาผู้ป่วยอื่น ๆ และต่อมาท่านพัฒนาเทคนิคการใช้น้ำในการรักษาแบบต่าง ๆ เช่น อาบน้ำร้อนสลับน้ำเย็น เป็นต้น

          นอกจากทางยุโรปที่พบความมหัศจรรย์ของการอาบน้ำร้อนสลับเย็นแล้ว ศาสตร์ของวารีบำบัดก็เป็นที่แพร่หลายในประเทศตะวันออกเช่นกัน โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับเป็นประเทศที่ถือว่าประชากรมีอายุเฉลี่ยสูงที่สุดในโลก

          โดย ผลการวิจัยยืนยันจาก Brain Functions Laboratory Inc. ประเทศญี่ปุ่น เมื่อทดลองจากการอาบน้ำร้อนสลับเย็น และทดสอบกับคลื่นไฟฟ้าสมอง และระดับการเต้นของหัวใจ พบว่าเมื่ออาบน้ำร้อนสลับเย็นระดับความโกรธและความเครียดลดลง  ความผ่อนคลายเพิ่มขึ้น และการเต้นของหัวใจที่ลดลง

          เนื่องจากว่าน้ำร้อนจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวและเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และทำให้เกิดเหงื่อรวมถึงการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้น ส่วนน้ำเย็นจะทำให้หลอดเลือดหดตัวและลดการไหลเวียนของโลหิต รวมถึงการเต้นของหัวใจที่ลดลง และเมื่อมีการอาบน้ำร้อน-เย็นสลับกันจะทำให้ร่างกายถูกกระตุ้นเป็นรอบ ๆ โดยเริ่มจากระบบประสาทส่วนปลาย ระบบประสาทอัตโนมัติ / ระบบประสาทส่วนกลาง ปฏิกิริยาส่วนปลาย ซึ่งจะช่วยให้เกิดการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง การกระตุ้นปฏิกิริยาของร่างกายนี้จะทำให้เซลล์ประสาทมีความนิ่งและส่งผลให้สภาพจิตใจมีการพัฒนาผ่อนคลาย

          ซึ่ง การอาบน้ำร้อนสลับเย็นเพื่อการผ่อนคลายให้ได้ผลต้องมีการสลับอย่างน้อย 10 รอบ โดยน้ำร้อน 30 วินาที และน้ำเย็น 30 วินาที  โดยเริ่มจากการอาบน้ำร้อนก่อน  การทำวารีบำบัดลักษณะนี้สามารถทำได้ง่าย และทำได้เองที่บ้าน  เพียงแค่ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นที่มี function การอาบน้ำร้อนสลับเย็นเท่านั้น

          1.สุดสายชล หอมทอง. "วารีบำบัด". สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยบูรพา., มีนาคม 2006.
          2.Brain Functions Laboratory Inc. "Shower Sensibility Evaluation Test" , August 2010.

ทายนิสัยจากวิธีการอาบน้ำของคุณ

476860156465073.jpg

คุณ รู้มั้ยว่าลักษณะนิสัยใจคอของเราแต่ละคนนั้น จริงๆแล้วสามารถทำนายได้จากการกระทำ หรือสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคนๆนั้นได้เหมือนกัน แม้กระทั่งวิธีการอาบน้ำของ แต่ละคนนั้น ก็สามารถทำนายนิสัยใจคอได้อย่างแม่นยำอีกด้วย แล้วคุณหล่ะมีวิธีการอาบน้ำแบบไหน และมีนิสัยเช่นไรมาดูกันค่ะ...


    
ชอบฟอกสบู่ให้มีฟองเยอะๆ - คนที่ชอบให้ฟองสบู่ท่วมตัวนั้น จะเป็นคนที่มีเสน่ห์ ชอบการเอาอกเอาใจ ชอบสิ่งสวยๆงามๆ จะมีความสุขเมื่อได้อยู่ในสถานที่โถง หรูหรา มีคนมาเทคแคร์ เป็นคนที่ดูแลตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม รู้จักการวางตัวในสังคสและเข้ากับคนเก่ง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ช่างสังเกต ทำงานที่รับผิดชอบได้เป็นอย่างดี และมีความเรียบร้อยสมบูรณ์แบบมาก โดยเฉพาะงานด้านจัดการหรือวางแผน

    
ชอบถูสบู่ครั้งเดียวพอ - คนที่อาบน้ำแบบนี้ มักจะเป็นคนที่ชอบความเรียบง่ายมีนิสัยตรงไปตรงมา อ้อมค้อมไม่เป็น จะรักหรือเกลียดก็จะแสดงออกมาชัดเจน โดยไม่ สนใจความรู้สึกผู้อื่น นอกจากนี้ยังเป็นคนชอบความปราดเปรียวว่องไว ทำงานและเข้าใจงานได้เร็ว และยังเป็นคนที่มีเป้าหมายในชีวิต ถ้ารักใครก็จะรีบขอคำตอยโดยเร็ว หากรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มี ใจให้ ก็จะตัดใจได้เร็วเช่นกัน จะเป็นคนที่ถือดีอยู่ในตัวทั้งยังชื่นชมตัวเองค่อนข้างมาก

    
ราดน้ำนิดหน่อยก็ถูสบู่เลย - คนที่เวลาอาบน้ำ ก็ราดตัวปุ๊บถูสบู่นั้น แสดงว่าเป็นคนใจร้อน ทำอะไรก็จะรีบเร่งแต่ก็หมายถึงว่าต้องเป็นสิ่งที่ตัวเองให้ความสนใจ ถ้าไม่สนใจ ก็จะผลัดวันประกันพรุ่งไปได้เรื่อยๆ เป็นคนที่มักจะคิดการใหญ่ แต่ไม่ค่อยจะให้ความสำคัญเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยและยังเป็นคนที่มี จินตนาการสูง โดยเฉพาะในเรื่องที่ เกี่ยวกับการทำงาน เหมาะกับการทำงานที่ต้องใช้ความคิด สร้างสรรค์ และให้อิสระ

    
ชอบขัดสีฉวีวรรณอย่างบรรจง - คน ที่อาบน้ำอย่างตั้งใจ ขัดสีฉวีวรรณอย่างบรรจงนั้นแสดงว่าเป็นคนที่จิตใจละเอียดอ่อน ไม่ชอบการทำอะไรค้างๆคาๆ เป็นคนพิถีพิถัน และมีความรักล้นเหลือในจิตใจ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีจิตใจเมตตาอ่อนโยนใจดี ชอบช่วยเหลือคน และเป็นคนที่ใส่ใจอาทรดูแลคนอื่นเก่ง มีความเป็นแม่ และยังนุ่มนวลอ่อนไหวเป็นธรรมชาติ สามารถ รับฟังปัญหาหนักอกหนักใจของคนอื่นได้โดยไม่เบื่อนอกจากรู้สึกเห็นใจ เป็นคนที่มีมนุษยธรรมมมากๆเลยทีเดียว

    
ชอบให้ตัวเปียกมากๆ - คน ที่ชอบอาบน้ำให้ตัวเปียกชุ่มโชก ไม่ว่าจะอาบด้วยฝักบัว หรือแช่ในอ่าง หรือจ้วงตักราดด้วยขันถี่ยิบนั้น แสดงว่าเป็นคนที่มักซุกซ่อนความ เครียดไว้ในใจ เก็บความรู้สึกเก่ง อารมณ์อ่อนไหวมากเกินไปและยังเป็นคนที่มีความลับเยอะมาก ถ้าไม่ใช่คนที่สนิทสนมจริงๆ ก็จะไม่ยอมเผยใจด้วยเด็ดขาด และเมื่อ ชื่นชอบใครก็จะหลงไหลคลั่งไคล้อย่างมาก ยามผิดหวังก็จะรุนแรงเช่นกัน

    
ชอบน้ำอุ่นๆ - คน ที่ชอบน้ำอุ่นที่สุด แสดงว่าเป็นคนที่รักความสุขสบาย ไม่ชอบความลำบาก เป็นคนถนอมตัว อ่อนโยนและชอบอยู่กับบ้านเป็นพิเศษ มักเป็นคนที่ไม่ชอบ การออกแรงกล้างแจ้ง นอกเสียจากว่าเป็นการไปท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ชอบตามใจคนอื่น เจ้าเสน่ห์และยังมีอารมณ์อันอ่อนหวาน แต่ในอีกด้านหนึ่งนั้นจะเป็นคนที่โลเลเอาแน่เอานอนไม่ได้เลย

    
ชอบอาบน้ำเย็นที่สุด - คน ที่ชอบอาบน้ำเย็นมากๆ แสดงว่าเป็นคนเข้มแข้ง มักจะมีความแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และมีความมั่นคงหนักแน่นมาก เป็นพูดจริงทำจริง และติดดิน นอกจากนี้เป็นคนที่ต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคเก่ง เมื่อท้อแท้จะสร้างกำลังใจได้ด้วยตัวเอง จะไม่ช่คนที่ยอมลดละความตั้งใจไปง่ายๆแต่ในอีกด้านหนึ่งจะเป็นคนที่หัวรั้น อยู่สัก หน่อย ไม่ค่อยสนใจคำแนะนำของผู้อื่น มีแต่ดื้อดึงจะทำตามที่ตนต้องการเท่านั้น

    
ไม่ชอบอาบน้ำสักเท่าไร - ส่วนคนที่มีนิสัยอายน้ำแบบนี้ แสดงว่าจะเป็นคนที่ไม่ค่อยใสใจในเรื่องละเอียดหยุมหยิม เป็นคนไม่อ่อนแอแต่ก็ไม่เข้มแข็ง ชอบอยู่ในที่ๆไม่เร่ง รีบ และการมีเวลาเป็นของตัวเองเยอะๆมักมีเหตุผลในการกระทำเสมอ ทั้งที่ลึกๆก็เป็นเรื่องของอารมณ์อารมณ์นะเอง นอกจากนี้ยังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีกฏเกณฑ์ในชีวิตนัก แต่ข้อดีคือการเป็นอารมณ์ดี ช่างจินตนการ คนอยู่ใกล้จะรู้สึกสบายใจ แต่มักจะไม่น่ารักกับนิสัยไร้ความรับผิดชอบ


ที่มา :
Forward Mail

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เนื้อเพลง โอ้ดวงจำปา ของ ลาว

ໂອ້ດວງຈຳປາ ເວລາ ຊມນ້ອງ*
ນຶກເຫັນ ພລັນສ່ອງພັນຊ່ອງ ມອງຫັນ ຫັວໃຈ ເອາ ນຶກ ຂຶ້ນໄດ້ ໃນ ກລິ່ນເຈ້າຫອມ
ເຫັນສວນດອກໄມ້ ບິດາປລູກໄວ້ ຕັ້ງແຕ່ ນານມາ*2 ເວລາ ງ່ວມເຫງາ** ເຈ້າ ຊ່ວຢ ບຣຣເທາບັນເທາ ເອາ ຫາຢ ໂສກາ ເຈ້າດວງຈຳປາ ຄູ່ເຄີຢງ ເອາມາ ແຕ່ ຢາມນ້ອຢ ເອຢ

ກລິ່ນ ກິ່ນ ເຈ້າ ສຳຄັຢສຳຄັນ ຕິດພັນ ຫັວໃຈ ເປັນ ນ່າອັກໃຄຣ່ອັກໃຄ່ ແພງໄວ້ ເຊຢຊມ ຢາມ ເຫງາ ເອາດມ ໂອ້ຈຳປາຫອມ*** ເມື່ອ ດມ ກລິ່ນກິ່ນເຈ້າ ປານ ພບ ເພື່ອນ ເກ່າ**** ທີ່ ພຣາກພາກຈາກໄປ ເຈ້າ ເປັນ ດອກໄມ້ ທີ່ງາມວິໄລ ຕັ້ງແຕ່ ໃດມາ ເຈ້າ ດວງຈຳປາ ມາລາ ຂວັນອັກ ຂອງ ເອີຢມ ນີ້ເອຢ
ໂອ້ ດວງຈຳປາ ບຸປຜາ ເມືອງລາວ ງາມດັ່ງດວງດາວ ຊາວລາວ ເພິງໃຈ***** ເກິດອຢູ່ ພາຢໃນ ແດນດິນ ລ້ານຊ້າງ ເມື່ອ ໄດ້ ພລັດພຣາກພັດພາກ ຫນີໄປ ໄກລຈາກ ບ້ານເກິດ ເມືອງນອນ****** ເອີຢມ****** ຈະ ເອາ ເຈ້າ ເປັນ ເພື່ອນ ອ່ວມເຫງາ******* ເທ່າ ສິ້ນ ຊີວາ ເຈ້າດວງຈຳປາ ມາລາງາມຢິ່ງ ມິ່ງເມືອງລາວເອຢ.
ຫາກຂຽນພາສາລາວ ດ້ວຍອັກສອນທີ່ຖືກຕ້ອງຕາມໄວຍາກອນລາວປັດຈຸບັນ ຕ້ອງຂຽນດັ່ງນີ້ (ຫາກຂຽນໃຫ້ຄົນລາວອ່ານ ຄົງອ່ານໄດ້ກໍມີຄົນຈຳນວນໜຶ່ງເທົ່ານັ້ນອ່ານໄດ້, ສ່ວນຄົນໄທຍ໌ຍິ່ງໄປກັນໃຫຍ່
ຂຽນຕາມໄວຍາກອນລາວແທ້ໆເຂົາຍັງອ່່ານບໍ່ໄດ້) ແຕ່ຖ້າ

ໂອ້........ດວງຈຳປາ ເວລາ ຊົມນ້ອງ
ນຶກເຫັນພັນຊ່ອງ ມອງຫັນຫົວໃຈ ເຮົານຶກຂຶ້ນໄດ້ ໃນກີ່ນເຈ້າຫອມ
ເຫັນສວນດອກໄມ້ ບິດາປູກໄວ້ ຕັ້ງແຕ່ນານມາ ເວລາ ຫງ່ວມເຫງົາ ເຈ້າຊ່ວຍ ບັນເທົາ ໃຫ້ຫາຍໂສກາ ເຈົ້າດວງຈຳປາ ຄູ່ຄຽງເຮົາມາ ແຕ່ຍາມນ້ອຍ ເອີຍ

ກິ່ນເຈົ້າສຳຄັນ ຕິດພັນຫົວໃຈ ເປັນໜ້າຮັກໃຄ່ ແພງໄວ້ເຊີຍຊົມ ຢາມເຫງົາ ເອົາດົມ ໂອ້ຈຳປາຫອມ ເມື່ອດົມກິ່ນເຈ້າ ປານພົບຊູ້ເກົ່າ ທີ່ພາກຈາກໄປ ເຈົ້າເປັນດອກໄມ້ ທີ່ງາມວິໄລ ຕັ້ງແຕ່ໃດມາ ເຈົ້າດວງຈຳປາ ມາລາຂວັນຮັກ ຂອງຮຽມນີ້ເອີຍ
ໂອ້..... ດວງຈຳປາ ບຸບຜາ ເມືອງລາວ ງາມດັ່ງດວງດາວ ຊາວລາວ ເພິງໃຈເກີດອຢູ່ ພາຍໃນແດນດິນລ້ານຊ້າງ ເມື່ອໄດ້ພັດພາກພັດ ຫນີໄປໄກຈາກ ບ້ານເກີດ ເມືອງນອນ ເອີຍຈະເອາເຈົ້າ ເປັນເພື່ອນ ຮ່ວມເຫງົາ ເທົ້າສິ້ນຊີວາ ເຈົ້າດວງຈຳປາ ມາລາງາມຍິ່ງ ມິ່ງເມືອງລາວເອີຍ.

วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

โทษของการอาบน้ำบ่อย

โทษของการอาบน้ำบ่อย
          ใครที่ชอบอาบน้ำบ่อย ๆ ทราบหรือไม่ว่าอาจให้โทษได้ วันนี้มีเรื่องนี้มาฝากกัน....
          การ อาบ น้ำล้างหน้าบ่อย ๆ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังบอกว่า กลับทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังง่ายขึ้น  เนื่องจากผิวหนังมีภูมิต้านทานตามธรรมชาติ เป็นเสมือนยาฆ่าเชื้ออยู่แล้ว เพื่อช่วยป้องกันการอักเสบหรืออาการพุพองต่าง ๆ หรือเกิดอาการแสบคัน จะเห็นได้จากเมื่อเกิดแผลขึ้นและแผลเป็นหนอง แสดงว่าเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่กำลังต่อสู้กับเชื้อโรคอยู่

          นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยทูบิงเคมในเยอรมันพบว่า เหงื่อจะมีสาร "เดอร์ เมดิซีน" มีสรรพคุณช่วยปกป้องผิวหนังจากการอักเสบที่ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นคัน สารตัวนี้ผลิตได้จากต่อมเหงื่อทั่วร่างกาย มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ก่อนที่แบคทีเรียจะทำอันตรายกับผิว
          สิ่งที่จะทำให้ยาฆ่าเชื้อบนผิวหนังถูกกำจัดไปอีกอย่างหนึ่งก็คือ สารระคายเคืองต่อผิวหนังจากผงซักฟอก สบู่ น้ำยาล้างจาน ฯลฯ การเลือกซื้อน้ำยาต่างๆ นี้ก็ควรเลือกชนิดที่ไม่ทำความระคายเคืองให้กับผิวหนัง สังเกตได้หลังจากการใช้ จะทำให้ผิวแห้งผากและเกิดอาการคัน
          รู้อย่างนี้แล้ว อาบน้ำวันละ 2 ครัง เช้า-เย้น กำลังดี
667748876897918.jpg
เรื่อง : เดลินิวส์

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

อย่าวัดคนแค่ภายนอก......

อย่าวัดคนแค่ภายนอก......


สุภาพสตรีในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายเรียบๆ กับสามีของเธอในชุดสูทเนื้อผ้าธรรมดาๆ ก้าวลงจากรถไฟในชานชาลาสถานีเมืองบอสตัน

ทั้งคู่ยืนรออย่างสงบอยู่หน้าสำนักงานอธิการบดีมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เลขานุการสาวดูออกในแว่บเดียวว่าสามีภรรยาซอมซ่อคู่นี้มาจากบ้านนอก
และไม่น่าจะมีธุระอะไรในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแห่งนี้

หล่อนขมวดคิ้ว
"เราต้องการพบท่านอธิการบดี" สามีกล่าวนุ่มนวล

"ท่านติดนัดตลอดทั้งวัน" เลขาฯ สะบัดเสียงเล็กน้อย

"งั้นเราจะรอ" ภรรยาตอบ

เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่เลขานุการทำเป็นไม่สนใจ
โดยประมาณว่าทั้งคู่คงทนไม่ได้ และกลับไปเอง

แต่หาเป็นเช่นนั้นไม่
เลขาฯ สาวเริ่มไม่แน่ใจจึงเข้าไปเรียนท่านอธิการบดี

"พวกเขาคงแค่อยากพบท่านครู่เดียว แล้วก็จะกลับ" หล่อนอธิบาย

ท่านอธิการบดีถอนใจด้วยความเบื่อหน่ายแล้วก็พยักหน้าแบบเสียไม่ได้
ความจริงแล้วคนสำคัญระดับท่านอธิการบดีจะมีเวลาพบคนระดับนี้ได้อย่างไร?
แต่ก็เถอะนะ ท่านคิด
ดีกว่าปล่อยให้คู่สามีภรรยาบ้านนอกป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ให้ใครต่อใครมาเห็น

ท่านเชิดหน้าอย่างทรงเกียรติใส่ทั้งคู่

ภรรยากล่าวขึ้น "ลูกชายของเราเคยเรียนในฮาร์วาร์ด 1 ปี เขารักฮาร์วาร์ดมาก
และเขาก็มีความสุขที่นี่อย่างยิ่ง แต่เมื่อปีที่แล้ว เขาได้ประสบอุบัติเหตุ และเสียชีวิต
สามี กับดิฉันจึงอยากทำอะไรสักอย่างไว้เป็นที่ระลึกถึงเขาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้

ท่านอธิการไม่รู้สึกร่วมกับคำพูดเหล่านั้นแต่อย่างใด
"คุณผู้หญิง เราไม่สามารถสร้างรูปปั้นให้กับทุกคนที่เคยเรียนฮาร์วาร์ดแล้วตายไปหรอกนะ
ถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ที่นี่คงดูไม่ต่างไปจากสุสานแน่"

"โอ...ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ท่านอธิการบดี" ภรรยารีบอธิบาย
เราไม่ได้ต้องการจะสร้างรูปปั้น แต่เราคิดว่าเราจะสร้างตึกให้ฮาร์วาร์ดต่างหาก"

ท่านอธิการกรอกตาไปมา เขามองไปที่ชุดผ้าฝ้าย กับสูทบ้านนอก
"สร้างตึก! พวกคุณรู้ไหมว่าต้องใช้เงินเท่าไรในการสร้างตึกสักหลังหนึ่ง
คุณรู้ไหม?...เราใช้เงินไปมากกว่า 7.5 ล้านดอลลาร์ในตอนเริ่มก่อตั้งฮาร์วาร์ดนี่"

ภรรยาเงียบ ไปครู่ใหญ่

ท่านอธิการบดีรู้สึกโล่งอก

ในที่สุดสามีภรรยาคู่นี้ก็จะต้องถูกกำจัดให้ไปเสียที

แล้วภรรยาก็หันมาพูดกับสามีเบาๆว่า
"ในการสร้างมหาวิทยาลัย ใช้เงินแค่นี้เองน่ะหรือ?
แล้วทำไมเราไม่สร้างมหาวิทยาลัยของเราเองสักแห่งหนึ่งล่ะ?"

สามีผงกศีรษะ

สีหน้าท่านอธิการเต็มไปด้วยความงงงวยสุดขีด!

จากนั้น...นาย และนาง ลีแลนด์ สแตนฟอร์ด ก็เดินทางไปยัง พาโลอัลโต ในแคลิฟอร์เนีย
ที่ๆ ต่อมา...พวกเขาได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยภายใต้นามสกุลของครอบครัว
เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ลูกชายที่ฮาร์วาร์ดไม่เคยเห็นคุณค่า

..................................................................................

นี่คือ...ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย Standford ในสหรัฐฯ
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังคู่แข่งของมหาวิทยาลัย Harvard
จะเห็นได้ว่า...มันสะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมของคนที่ชอบตัดสินคนอื่นเพียงแค่ เปลือกนอก !
 
---------------------------------------------------------------------
 
ปล. เรื่องเก็บมาเห็นว่าน่าอ่านดี  แต่ไม่มีอ้างอิงว่าจริงเท็จแค่ใหนนะครับ
 
 
094133572187274.jpg
photo : http://iacee2014.stanford.edu/

แต่งบ้านให้เป็นมงคล

626023650635033.jpg

ของแต่งบ้านบันดาลโชค (เป็นศิริมงคล)



1. ส้ม เป็นรูปภาพก็ได้ หรือผลไม้เหมือนจริงมาใส่ตะกร้าบนโต๊ะในห้องรับแขกจะให้โชคลาภ



2. ทับทิม ควรปลูกไว้หน้าบ้านจะได้ลูกหลานที่ดี และไม่มีภัย



3. โต๊ะต่าง ๆ ภายในบ้าน ควรจะเลือกเป็นทรงกลม หรือแปดเหลี่ยม ถ้าเป็นสี่เหลี่ยมมุมโต๊ะควร เป็น มน ๆ จะเสริมมงคลให้แก่บ้านสามารถขจัดพลังชั่วร้ายและดึงดูดเอาความเจริญเข้าสู่ บ้าน



4. ของแต่งบ้านรูปหมู เป็นสัญลักษณ์ของโชคและความอุดมสมบูรณ์


5. ช้าง เป็นสัญลักษณ์ของสติปัญญาและโชค ควรตั้งช้างไว้ในห้องรับแขก ห้ามตั้งช้างหันหน้าออกสู่หน้าประตูเด็ดขาด จะทำให้ครอบครัววุ่นวายมีแต่เรื่องขัดแย้ง



6. พัด การนำพัดมาตกแต่งบ้านจะช่วยบันดาลให้คุณและคนในครอบครัวประสบความร่มเย็น เป็นสุข และมักได้ข่าวดีอยู่เสมอ



7. เต่า ควรตั้งตุ๊กตา หรือรูปปั้นเต่าไว้ในห้องนั่งเล่นหรือมุมใดในบ้านก็ได้จะทำให้คนในบ้านสุขภาพดีอายุยืน ยกเว้นห้องทำงาน



8. ไก่ ตุ๊กตาหรือรูปปั้นวัสดุใดก็ได้ล้วนแต่เป็นสิริมงคลต่อบ้านในทางเรียกโชคลาภเงินทอง



9. การแต่งบ้านด้วยเครื่องปั้นดินเผาไม่ว่าจะเป็นรูปใดจะทำให้คนในบ้านมีฐานะการเงินที่มั่นคง





ของแต่งบ้านที่ไม่เป็นมงคล



1. งู ไม่ควรนำมาแต่งบ้านเพราะงูเป็นสัญลักษณ์ของความอาฆาตซึ่งส่งผลให้หมกมุ่น อยู่กับอารมณ์โกรธ และยังเป็นเครื่องหมายของตัณหาราคะคนในบ้านจะฝักใฝ่แต่เรื่องโลกีย์



2. นาฬิกาทราย จะมีผลทำให้ คนในบ้านต้องเหนื่อยกับภารกิจใดๆ ก็ตามที่ต้องทำอย่างรีบเร่งจนไม่มีเวลา พักผ่อนอย่างสุขสบายเลย



3. หมี เป็นสัตว์น่ารักแต่จะทำให้คนในบ้านพลาดท่าเสียทีผู้อื่นเพราะไม่ทันคน



4. ม้าลาย ถ้านำมาแต่งบ้านคนในบ้านจะมีแต่เรื่องแตกแยกกันเสมอไม่มีโชคลาภเข้าสู่บ้าน


5. จระเข้ เพราะเป็นสัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์เพทุบาย จะทำให้อับโชค และมีคนคอยคิดมุ่งร้าย ต่อคุณ และคนในครอบครัว



6. หนู ความหมายไม่เป็นมงคล จะทำให้ถูกหักหลังหรือถูกเอาเปรียบ


7. แมว หมายถึงแมวที่ไร้ชีวิตถ้านำมาแต่งบ้านจะก่อให้เกิดการหลอกลวงจากคนนอกมาฉกฉวยโอกาสหาผลประโยชน์

ที่มา: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์

ภาพประกอบ http://www.happyhospital.org

วิธีแก้ปัญหาเครื่อง Mac ช้า

1.การ reset PRAM
 
  PRAM(Parameter RAM) คือ หน่วยความจำสำรองที่เก็บค่า set up ต่างๆของเครื่องไว้ เช่น ตั้งค่าการ์ดจอให้แสดงผลที่เรทเท่าไร ความละเอียดสูงแค่ไหน ตั้งเสียงไว้สูงเท่าไร ตั้งค่าเวลาของเครื่องไว้เท่าไร โซนเวลาโซนไหน ตั้งHDDตัวไหนเป็นตัวบูทOS เป็นต้น
 
  บางทีเครื่องอาจจะทำงานไม่ถูกต้อง จำค่าบางอย่างผิดเพี้ยนไปก็มีส่วนทำให้เครื่องบูทนาน เครื่องเปิดโปรแกรมนาน บูทเครื่องแล้วไม่เห็นDriveที่ต้องการ จำเป็นต้องทำการ reset PRAM เพื่อล้างค่าความจำเดิมให้กลับไปที่จุดเริ่มต้นใหม่ โดยการกดปุ่ม Command + Option + P + R 
Screen+Shot+2011-11-22+at+11.00.16+PM.pn
ขั้นตอนการทำ
1. กดปุ่ม power เพื่อเปิดเครื่องคอม
2. กดปุ่ม Command + Option + P + R  กดทันทีหลังจากเปิดเครื่อง(หน้าจอยังมืดอยู่)
3. กดปุ่มค้างไว้จนกว่า จะได้ยินเสียง startup disk อย่างน้อย3ครั้ง หรือกดค้างทิ้งไว้สัก 1.30นาที
หลังจากทำเสร็จขั้นตอนดังกล่าว ก็ปล่อยมือ ให้บูทเข้า OS ตามปรกติ เสร็จขั้นตอน
 
2.การทำ Permission 
  เป็นการจัดเรียงข้อมูลบน Harddisk เนื่องจากเราเขียนข้อมูลลงบน Harddisk แล้วลบ แล้วเขียนซ้ำทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ทำให้ข้อมูลอยู่กระจัดกระจายบน Harddisk ดังนั้นจึงควรจัดระเบียบข้อมูล เพื่อให้เครื่องง่ายต่อการข้นหาข้อมูลบน Harddisk ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้เร็วกว่า เครื่องจึงทำงานได้เร็วขึ้น
 
ขั้นตอนการทำ
1.ตรวจสอบว่า OS ของเครื่องเป็น Version ไหน
   1.1 ถ้าเป็น OS10.5 Leopard & OS10.6 Snow Leopard ให้เราใส่แผ่นชื่อ Install OSX ที่แถมมากับกล่องลง        ไปในเครื่องตามปรกติ
   1.2 ถ้าเป็น OS10.7 Lion ซึ่งVersion นี้จะไม่มีแถมแผ่นติดตั้งมาให้เรา ข้ามขั้นตอนการใส่แผ่นไป
2.ปิด เครื่องแล้วเปิดเครื่องใหม่ (ช่วงที่กดปุ่ม Power เปิดเครื่องให้รีบกดปุ่ม Option ตามค้างไว้) จากนั้นรอจนกว่าหน้าจอจะแสดงรูป  Harddisk 
Screen+Shot+2011-11-22+at+11.17.36+PM.pn
3.ถ้าOS Version 10.5 & 10.6 ให้เลือกรูปแผ่น CD Install OSX 
แต่ถ้าเป็น OS10.7 ให้เลือกรูป Harddisk ที่ชื่อ Recovery HD ตามรูป
4.เลือกภาษาอังกฤษ แล้วเลือกปุ่ม ---> แล้วจะบูทเข้ามาหน้าจอดังรูปนี้
Screen+Shot+2011-11-22+at+11.25.57+PM.pn
5.เลือก Disk Utilities จะขึ้นตามรูปนี้
Screen+Shot+2011-11-22+at+11.28.54+PM.pn
6.เลือก Macintosh HD แล้วทำการคลิ๊กตาม stepนี้
   6.1 Verify Disk Permission
   6.2 Repair Disk Permission
   6.3 Verify Disk
   6.4 Repair Disk
ก็ จะเสร็จขั้นตอนการจัดเรียงข้อมูล คล้ายๆการทำ รีแฟ็คเม้น ของ Window ถ้าหากทำตามขั้นตอนนี้แล้วยังช้าอีกคงมีเปัญหาที่ Harddisk เสียคงต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว
 
จาก http://proncharoenrote.blogspot.com/2011/11/mac.html

Paul McCartney – I Will

Paul McCartney – I Will

     E         C#m         F#m        B7
Who knows how long I've loved you?
     E      C#m        G#m
You know I love you still
 E7     A       B      C#m       E7
Will I wait a lonely lifetime?
E7      A      B      E     C#m  F#m  B7
If you want me to, I will


  E    C#m     F#m        B7
For If I ever saw you
    E      C#m        G#m
I didn't catch your name
E7     A       B      C#m       E7
But it never really matters
E7        A     B       E     E7
I will always feel the same

[CHORUS]
   A          B     C#m    E7
I love you forever and forever
A              B       E     E7
Love you with all my heart
A            B             C#m
Love you whenever we're together
F#7                    B
Love you when we're apart
[ Tab from: http://www.guitaretab.com/b/beatles/189059.html ]
E        C#m         F#m        B7
When at last I find you
       E        C#m       G#m
Your song will fill the air
E7        A     B        C#m      (A E)
Sing it loud so I can hear you
E7        A  B        C#m      (A E)
Make it easy to be near you
         A        B     C#m        E7
Al the things you do endear you to me
A        B      E
Oh you know I will

[chorus]

E        C#m         F#m        B7
When at last I find you
       E        C#m       G#m
Your song will fill the air
E7        A     B        C#m      (A E)
Sing it loud so I can hear you
E7        A  B        C#m      (A E)
Make it easy to be near you
         A        B     C#m        E7
Al the things you do endear you to me
A        B     C
Oh you know I will
   E
I will
(A  B  C#m  E  A  B  E)

เงินเดือนอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย

ประธานองคมนตรี เงินเดือน 114,000 บาท

องคมนตรี เงินเดือน 104,500 บาท

ประธานศาลฎีกา เงินเดือน 75, 590 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท

ผู้ช่วยผู้พิพากษา เงินเดือน 17,560 -18,950 บาท

ประธานศาลปกครองสูงสุด เงินเดือน 75,590 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท

ตุลาการศาลปกครองชั้นต้น เงินเดือน 67,560 บาท เงินประจำตำแหน่ง 30,000 บาท

อัยการ 8 เงินเดือน 73,240 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,500 บาท

อัยการ 1 เงินเดือน 17,560 - 18,950 บาท



นายกรัฐมนตรี เงินเดือน 75, 590 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000

รองนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 74,420 บาท เงินประจำตำแหน่ง 45,000 บาท

รัฐมนตรี เงินเดือน 73,240 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,500 บาท

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เงินเดือน 47, 250 บาท

ประธานสภาผู้แทนราษฎร เงินเดือน 75,590 บาท เงินประจำตำแหน่ง 50,000 บาท

ประธานวุฒิสภา เงินเดือน 74,420 บาท เงิน เงินประจำตำแหน่ง 45,500 บาท

รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เงินเดือน 73,240 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,500 บาท

รองประธานวุฒิสภา เงินเดือน 73,240 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42, 500 บาท

ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เงินเดือน 73,240 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,500 บาท

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เงินเดือน 71,230 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,330 บาท

สมาชิกวุฒิสภา เงินเดือน 71,230 บาท เงินประจำตำแหน่ง 42,330 บาท





ข้าราชการทหาร ระดับนายพล ระดับ น.9 ชั้น 9.5 เงินเดือน 70,930 บาท ต่ำสุด ระดับ 1 พ.1 -ระดับ 25 เงินเดือน 1,360- 6,050 บาท

ข้าราชการพลเรือนสามัญ ขั้นสูง ระดับสูง เงินเดือน 69,810 บาท

ข้าราชการพลเรือนสามัญ ประภททั่วไป ปฎิบัติงาน ขั้นต่ำ เงินเดือน 4,870 บาท

ข้าราชการครู ขั้นสูง คศ. 5 เงินเดือน 66,480 บาท

ข้าราชการครูผู้ช่วย ขั้นต่ำชั่วคราว เงินเดือนเริ่มที่ 7,940 บาท

บัญชีอัตราเงินวิทยฐานะ ครูเชี่ยวชาญพิเศษ 15,600 บาท

ครูเชี่ยวชาญ 9,900 บาท

ครูชำนาญการพิเศษ 5,600 บาท

ครูชำนาญการ 3,500 บาท

วิศวกร สาขาต่างๆ เงินเดือน เริ่มต้นที่ 12,000 บาท สูงสุดที่ 60,000 บาท โบนัสและสวัสดิการต่างหากแล้วแต่ระดับการจ่ายของบริษัท

แพทย์ สาขาต่างๆขึ้นอยู่กับรายได้แต่ละแพทย์เฉพาะทาง ในส่วนของระบบราชการจะอยู่ในระดับโครงสร้างของข้าราชการ ซึ่งอาจเสริมรายได้จากการไปเป็นแพทย์พิเศษตามสถานพยาบาลต่างๆ อีก หรือคลินิก ขณะที่แพทย์ของเอกชน ก็ขึ้นอยู่กับรายได้ของเฉพาะทางนั้นๆ บางรายมีรายได้สูงสุดต่อเดือนนับล้านบาท





งานด้านคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเมอร์, เจ้าหน้าที่ Network ,เว็บมาสเตอร์ เงินเดือน 12,000-50,000 บาท

กราฟฟิก ดีไซน์เนอร์ เงินเดือน 15,000 บาท ขึ้นไป

ผู้สื่อข่าว-ช่างภาพหนังสือพิมพ์/วิทยุ/เว็บไซต์ เงินเดือน 7,000 - 25,000 บาท

ระดับหัวหน้าข่าว 23,000-35,000 บาท

ระดับบรรณาธิการบริหาร 30,000 บาท ขึ้นไป

ผู้สื่อข่าว-ช่างภาพโทรทัศน์/ผู้ประกาศข่าว เงินเดือน 12,000 - 40,000 บาท

ระดับหัวหน้าข่าว 30,000 - 50,000 บาท

ระดับบรรณาธิการบริหาร 40,000 บาท ขึ้นไป

คอลัมนิสต์,นักเขียน นิตยสาร เงินเดือน 9,000-50,000 บาท ขึ้นไป

พนักงานบัญชี เริ่มต้นที่ 9,000 บาทขึ้นไป

พนักงานบริษัททางด้านสายงานต่างๆ เริ่มต้นที่ 10,000 บาท ขึ้นไป

สาวไซด์ไลน์ การขายวิวจะเริ่มที่ 90 หรือ 100 บาทขึ้นไป สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ต่อครั้ง ถ้าเป็นเดือน เฉลี่ย เดือนละ 3-4 หมื่นบาท

พนักงานโรงแรม ในระดับทั่วไป เงินเดือน 4,000 บาท ขึ้นไป ไม่รวมค่า เซอร์วิส ชาร์ต

พนักงานโรงแรม แผนกต้อนรับ เงินเดือน 10,000 บาทขึ้น ไม่รวมค่าเซอร์วิส ชาร์ต

พนักงานขับรถลีมูซีน ประจําโรงแรมห้าดาว-สนามบิน เงินเดือน 16,600 บาท ขึ้นไป

โชเฟอร์ขับแท็กซี่ เฉลี่ยรายได้วันละ 250 บาท ขึ้นไป (หักค่าเช่า+น้ำมันแล้ว)

รถจักรยานยนต์รับจ้าง เฉลี่ยรายได้วันละ 300 บาท ขึ้นไป (หักค่าวิน+น้ำมันแล้ว)

เกษตรกร รายได้ขึ้นอยู่กับผลผลิตสินค้าเกษตร ไม่ว่าจะเป็นการทำไร่ ทำสวน ปลูกพืช ผัก ผลไม้ หรือแม้แต่การเลี้ยงสัตว์ การทำประมง
สำหรับผู้ใช้แรงงานทุกประเภท ค่าแรงขั้นต่ำ เฉลี่ยอยู่ที่วันละ 215 บาท ขึ้นไป
 
ข้อมูลจาก มติชน

การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี

การดื่มน้ำอย่างถูกวิธี

หลายคนคงเข้าใจว่า เมื่อร่างกายต้องการน้ำจึงดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป ผลที่ตามมาก็คือ เกิดอาการท้องอืด ปัสสาวะบ่อย แล้วสีของปัสสาวะก็จะใส ซึ่งการปัสสาวะที่อยู่ในระดับปกติจะออกสีเหลืองอ่อน และถ้าขาดน้ำ ปัสสาวะจะมีสีเหลืองเข้ม และเมื่อปัสสาวะบ่อยๆ นานๆ เข้า ทั้งยังไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำอีก หรือชอบกลั้นปัสสาวะ ก็จะเกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ ดื่มน้ำน้อยเกินไปร่างกายก็เหมือนต้นไม้เหี่ยวเฉา

การดื่มน้ำจะช่วยให้ร่างกายได้ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย แต่ถ้าดื่มน้ำในปริมาณที่น้อยต่อความต้องการของร่างกาย ผิวหนัง ผิวกายและเส้นต่างๆ ก็จะตึง เพราะเลือดจะข้นมาก ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยการสูบฉีดเลือดซึ่งเป็นไปอย่างความยากลำบาก การส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะทำงานช้าลง แต่ถ้ารับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะน้ำก็จะเข้าไปรวมตัวกับเลือด เพื่อให้เลือดลดปริมาณความข้น หัวใจก็สามารถสูบฉีดเลือดได้สะดวกและการนำไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายก็ง่ายขึ้น ดื่มน้ำให้พอเหมาะกับความต้องการของร่างกายดีที่สุด

การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยระบบขับถ่ายทำงานอย่างเป็นปกติ ลดอาการท้องผูก เพราะน้ำจะเข้าไปช่วยให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อของเรามีความชุ่มชื้น ผิวหนังดูสดใสเปล่งปลั่ง ใบหน้ามีเลือดฝาด ยังช่วยในการเผาผลาญไขมันที่ต้องกำจัด เพราะไตทำงานได้ดีและเป็นปกติ

ควรดื่มน้ำทีละอึก ค่อยๆ ดื่ม เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่า ไม่ควรดื่มน้ำรวดเดียวหมด เพราะร่างกายจะดูดซึมได้ช้าและยังเกิดอาการจุกเสียดกระเพาะและอึดอัดท้อง

ควรดื่มน้ำอุ่นตอนเช้า 3-5 แก้วเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายได้ขับถ่ายของเสียและสารพิษในร่างกาย ไม่ควรดื่มน้ำเย็นก่อนนอน เพราะจะทำให้เวลากลางคืนที่คุณหลับ จะลุกขึ้นมาปัสสาวะ ซึ่งจะทำให้การนอนหลับของคุณขาดช่วง เท่ากับว่าคุณต้องไปเริ่มกระบวนการพักผ่อนใหม่อีกครั้ง (ควรดื่มน้ำอุ่นแทนการดื่มน้ำเย็น เพื่อปรับสมดุลในร่างกายให้ปกติ)

ควรดื่มน้ำผลไม้ ชนิดไม่แยกกาก หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของธัญพืชชงร้อนๆ ก็ช่วยเพิ่มความสดชื่นและเติมไฟเบอร์ให้ร่างกาย การขับถ่ายก็จะง่ายขึ้น ไม่ควรดื่มน้ำอัดลม เพราะยิ่งจะไปเพิ่มปริมาณแก๊สในกระเพาะ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย
ควรดื่มน้ำหลังจากรับประทานอาหารไปแล้ว 15-30 นาที เพื่อให้อาหารที่รับประทานเข้าไปย่อยให้หมด ไม่ควรดื่มน้ำตามเวลารับประทานอาหาร จะทำให้อาหารที่รับประทานเข้าไปอืด ส่งผลให้อาหารไม่ย่อย ก็จะเกิดอาการปวดท้อง (แต่สามารถจิบน้ำซุประหว่างรับประทานอาหารได้)

แค่คุณเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มน้ำ คุณก็จะมีสุขภาพที่ดีได้ง่ายๆ









ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

บันได 5 ขั้นปฏิวัติตัวเองสู่รอบเอวในฝัน

บันได 5 ขั้น ปฏิวัติตัวเองสู่รอบเอวในฝัน เริ่มจาก “การค้นหาน้ำหนักตัวที่เหมาะสม” โดยหลักเกณฑ์ง่ายๆที่จะบอกว่าอ้วนไม่อ้วนก็คือ นำส่วนสูงมาลบด้วย 110 กรณีของผู้หญิง และสำหรับผู้ชายให้ลบด้วย 100 จะได้ตัวเลขน้ำหนักที่ควรจะเป็น ถ้าเกินหรือขาดแปลว่าไม่สมดุล

บันไดขั้นต่อมาคือ “โภชนาการดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” คำว่าโภชนาการดีคือ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ทุกมื้อ โดยหน่วยงาน USDA ของอเมริกา รณรงค์ว่า ให้แบ่งสัดส่วนอาหารในจานแต่ละมื้อออกเป็น 3 ส่วน โดยตักผักใบสีเขียวและผักสดต่างๆครึ่งจาน ตักแป้งและคาร์โบไฮเดรตไม่เกิน 1/4 ของจาน และส่วนที่เหลืออีก 1/4 เป็นโปรตีน ถ้าจะให้รอบเอวเล็กลงทันใจขึ้น ควรเลือกทานแป้งเชิงซ้อน เช่น ข้าวไม่ขัดสี ขนมปังโฮลวีท ธัญพืช และเมล็ดถั่วต่างๆ ส่วนโปรตีนก็เป็นโปรตีนคุณภาพดี

บันไดขั้นที่สามท่องไว้ “ซ้ายที ขวาที วันละ 30 นาที ช่วยได้เกิน 100%” การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวัน ละครึ่งชั่วโมง ช่วยให้ดูเพรียวขึ้นทันใจจริงๆ แถมสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัย “ท่าลดเอว” ที่ทำง่ายแต่ได้ผลคือ การนอนตะแคงยกขาขึ้นลง ทำข้างละ 20-30 ครั้งสลับไปมา หรือยืนหมุนตัวบนแผ่นหมุน 15-20 นาที

บันไดขั้นที่สี่คือ “น้ำผู้ช่วยที่ถูกลืม” กลไกในร่างกายส่วนใหญ่ใช้น้ำเป็นตัวขับเคลื่อน แต่เรามักดื่มน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ทางที่ดีควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว

บันไดขั้นสุดท้าย “สวมบทคุณบังอร” เพื่อให้ระบบเผาผลาญทำงานมีประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยงการนอนดึก เพราะจะทำให้อยากทานขนมจุกจิก และหิวระหว่างกลางคืน ส่งผลให้รอบเอวใหญ่ขึ้นแบบยั้งไม่อยู่ การพักผ่อนด้วยการนอนไม่น้อยกว่า 6-8 ชั่วโมง และไม่นอนดึกเกิน 4 ทุ่ม จะทำให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเพียงพอ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญได้มากขึ้นจากปกติถึง 40%





ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

บทกวีสร้างเสริมกำลังใจ โดย.. วันฟ้าใหม่ เทพจันทร์

บทกวีสร้างเสริมกำลังใจ
โดย.. วันฟ้าใหม่ เทพจันทร์

กลับออกมาด้านใน

๐ วันเช้าใหม่ได้เห็นตะวัน
พาสีสันมาส่องท้องหล้า
สร้างโลกให้กว้างใหญ่ไกลตา
แสงเดียวพาชีวิตชีวามาเต็ม

๐ ต่อยอดฝันของฉันที่มี
มาแต่ราตรีมืดค่ำสีดำเข้ม
ทองพระจันทร์เสี้ยวถูกแทะเล็ม
นั่นก็ยังอิ่มเอมใจไยดี

๐ โลกนี้มหัศจรรย์อยู่แล้ว
สารพัดแก้วอัญมณีมีสี
ดิน น้ำ ลม ฟ้าอากาศดี
ซึ่งให้เราได้มีลมหายใจ
๐ หนึ่งวิญญาณผ่านมาเกิด
ถือว่าเลิศกว่าภูตผีไหนไหน
มีครรภ์แม่ให้อยู่อย่างอุ่นไอ
เติบใหญ่ก็มีที่ให้หยัดยืน

๐ หู ตา จมูก ปาก สัมผัสได้
ในรูป รส กลิ่น เสียงที่ดาษดื่น
กระทบเข้าโสตอยู่ทุกวันคืน
ระทมหรือรื่นรมย์เพียงใด

๐ ชีวิตจึงต้องการความฝัน
เพื่อสร้างวันวัยให้สดใส
จิตรก่อจินตนาการนานไป
ได้หล่อเลี้ยงวิญญาณทรมาน

๐ ท่านว่ารวยอะไรไหนในหล้า
ไม่เท่ากับว่ารวยฝันอันหวาน
จนเงินจนทองของรับประทาน
ไม่เท่าจนจินตนาการประจำตน

๐ มนุษย์หนึ่งซึ่งมาอาศัยในโล
เลือกจะลบโศกหรือสร้างโศกหม่น
ในแก่โลกที่รักของทุกคน
สาละวนจิตจะผลิตอะไร

๐ จงจินตนาการด้านกุศล
ผลบุญหนุนสติปัญญาใส
ที่จะหนีจากกรอบออกไป
จากปฐมผู้ทำให้มนุษย์สุดอาย

๐ แล้วกลับออกมาด้านใน
เพื่อจะเข้าไปสู่ด้านนอกที่สูญหาย
ปิดตาเปิดใจให้สบาย
ตายจากความตายกลายเกิดมี

มาทำน้ำดื่มสมุนไพร บำรุงสุขภาพ กันเองเถอะ

น้ำใบบัวบก
ส่วนผสม

บัวบกหั่นฝอย 2 ถ้วยตวง
น้ำต้มสุก 2 ถ้วยตวง
น้ำเชื่อม

วิธีทำ

1 นำใบและก้านลงโขลกให้ละเอียด
2 เติมน้ำต้มสุกคนให้เข้ากัน
3 กรองด้วยผ้าขาวบางเอาแต่น้ำ

เวลาดื่มใส่น้ำเชื่อม น้ำแข็ง ตามใจชอบ
พั้นซ์น้ำขิงค่ะ
ส่วนผสม

ขิงแก่ 50 กรัม
น้ำตาลทราย 1/ 2 ถ้วยตวง
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำสับปะรด 1/2 ถ้วย
น้ำมะนาว 1/4 ถ้วย
น้ำ 4 ถ้วย

วิธีทำ

1. ล้างขิงให้สะอาด ทุบให้แตก
2. ตั้งน้ำให้เดือดจึงใส่ขิง เคี่ยวจนน้ำลดลงเหลือ 3 ถ้วย เทกรองใส่หม้อแล้วขึ้นตั้งไฟอีกครั้ง
3. เติมน้ำตาล คนให้ทั่วจนน้ำตาละลายหมด ยกลงปล่อยทิ้งไว้ให้เย็นจึงใส่มะนาว น้ำสับปะรด เกลือ คนให้ทั่ว รินใส่ภาชนะแช่เย็น เสริฟโดยรินใส่ถ้วยที่ใส่น้ำแข็งก้อน ดื่มแล้วชื่นใจ
น้ำลูกยอองุ่นดำ
ส่วนผสม

1. ลูกยอสุก 2 กก.
2. องุ่นดำ 1 กก.
3. น้ำผึ้ง 1/2 ขวด
4. น้ำตาลทรายแดง (กากน้ำตาล) 1 กก.
5. ถังพลาสติก หรือตุ่ม หรือขวดโหลแก้ว 1 ใบ
6. น้ำกรองหรือน้ำต้มสุก 10 กก.


วิธีทำ
ขั้นที่ 1 นำลูกยอสุกและองุ่นดำแช่ล้างให้สะอาด วางให้สะเด็ดน้ำ บีบให้ละเอียด
ขั้น ที่ 2 น้ำ 10 กก. ใส่ในถังใส่น้ำตาลทรายแดง คนให้ละลายนำลูกยอและองุ่นดำใส่ในถัง คนให้ทั่ว และปิดฝาให้สนิท หมักไว้ประมาณ 10-15 วัน บีบกรองนำกากออก และเติมน้ำผึ้งผสม
1. วุ้นในว่านหางจระเข้ 5 กก.
2. น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 1 กก.
3. เกลือ 3 ช้อนโต๊ะ
4. ใบเตยหอม 4-5 ใบ

วิธีทำ
1. นำใบว่านหางจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ อายุอย่างน้อย 1 ปี ปอกเปลือกสีเขียวออก และนำวุ้นไปหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดลูกเต๋า แช่น้ำเกลือ 10-15 นาที ล้างออกจนหมดไม่มีรสเค็ม ประมาณ 3-4 น้ำ
2. นำน้ำตาลทรายไม่ฟอกสี ใส่ในน้ำประมาณ 2 ลิตร ต้มให้เดือด
3. นำวุ้นว่านหางจระเข้ต้มให้สุกแล้วนำไปใส่ในน้ำเชื่อมที่กำลังเดือดประมาณ 10 นาที ยกลง

ประโยชน์
รับประทานบรรเทาอาการหรือรักษาโรคกะเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ท้องผูก บำรุงร่างกาย โรคร้อนใน เนื้องอก มะเร็ง ฯลฯ
น้ำตะไคร้

ส่วนผสม
1. ตะไคร้ 20 กรัม (1 ต้น)
2. น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
3. น้ำเปล่าต้มสุก 240 กรัม (16 ช้อนคาว)


วิธีทำ
นำ ตะไคร้มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นท่อนสั้น ทุบให้แตกใส่หม้อต้มกับน้ำให้เดือด กระทั่งน้ำตะไคร้ออกมาปนกับน้ำจนเป็นสีเขียว สักครู่จึงยกลงกรองเอาตะไคร้ออก เติมน้ำเชื่อมชิมรสตามชอบหรืออาจเอาเหง้าแก่ที่อยู่ใต้ดินล้างให้สะอาด ฝานเป็นแว่นบาง ๆ คั่วไฟอ่อน ๆ พอเหลือง ชงเป็นชา ดื่มวันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 ถ้วยชา จะช่วยขับปัสสาวะให้สะดวก
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับอาหาร
คุณค่าทางยา แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อได้ดีช่วยลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกาย รวมทั้งช่วยลดความดันโลหิตสูง
น้ำแครอท

ส่วนผสม

เนื้อแครอทหั่นชิ้นเล็ก ๆ ครึ่งถ้วยตวง
น้ำเชื่อมชนิดเข้มข้น 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ หรือน้ำแข็งบด 1 ถ้วยตวง


วิธีทำ

เอา เครื่องปั่นน้ำผลไม้มา ใส่เนื้อแครอทลงไปในเครื่องปั่น เติมน้ำเชื่อมเข้มข้นลงไปเติมน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ หรือน้ำแข็งบดลงไป 1 ถ้วยตวง เปิดสวิชเดินเครื่องปั่นทันที พอละเอียดก็เอารินใส่แก้วทรงสูง ใส่หลอดดูดลงไป ดื่มได้อย่างชื่นใจจริง ๆ "น้ำแครอท" นี้สด ๆ หวาน เย็น สีส้มเรื่อ ๆ สดใสมองดูน่าดื่มเป็นที่สุด ดื่มเพื่อดับอาการกระหายน้ำ ดื่มเพื่อคลายความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนเพลียที่อากาศร้อนหรือเพิ่งเดิน ทางกลับมาจากที่ใดที่หนึ่ง เอาหัว "แครอท" ติดบ้านเอาไว้เสมอ เพื่อใช้ประโยชน์ได้สารพัดอย่าง เอามาปรุงอาหารก็ได้ เอามาทำเป็นน้ำผลไม้ปั่นก็ได้อีก เนื้อ "แครอท" มีสารตัวหนึ่งที่ชื่อ "เบต้าแคโรทีน" สูงทีเดียว ไม่ควรมองข้ามของดีอย่าง "แครอท" เลย มีผู้นำ "แครอท" ไปทำเป็น "ส้มตำ" ก็ได้ อร่อยดีเหมือนกัน ได้ประโยชน์มากด้วยหรือเอา "แครอท" ไปผสมกับมะละกอที่ทำ "ส้มตำ" ก็ยิ่งดี ประโยชน์ทางโภชนาการจะมีมากยิ่งขึ้น
น้ำมะระ

ส่วนผสม
1. เนื้อมะระขี้นก 30 กรัม (3 ลูก)
2. ใบเตยหอมตากแห้ง 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
3. น้ำต้มสุก 200 กรัม (14 ช้อนคาว)
4. เกลือป่น 1 กรัม (5 ช้อนชา)
5. น้ำมะนาว 15 กรัม ( ครึ่งลูก)

วิธีทำ
1. นำมะระขี้นำล้างให้สะอาด ผ่าซีก แกะเอาเมล็ดออกหั่นเป็นชิ้นยาวๆ บาง ๆ ตามขวางของผลมะระ
2. นำใบเตย หั่นเป็นท่อนสั้น ๆ ตากแห้งแล้วคั่วให้เหลืองกรอบ เก็บในขวดปากกว้าง
3. เอามะระขี้นกใบเตยหอมและน้ำ ใส่ในหม้อต้มให้เดือด หรือถ้าไม่อยากต้มจะใส่ในถ้วยแก้ว ทิ้งไว้ 5-10 นาที แล้วนำมาดื่มได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะขมเวลาดื่ม เพราะแก้ไขด้วยการเอาใบเตยหอมและน้ำมะนาวมาผสม ช่วยได้ดี ช่วยกลบความขมของมะระขี้นกได้มาก

ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณค่าทางอาหาร มีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตา
คุณ ค่าทางยา น้ำคั้นผลมะระ เมื่อดื่มจะช่วยลดการเกิดต้อกระจก ซึ่งเป็นอาการจากโรคเบาหวาน ช่วยเจริญอาหาร ลดน้ำตาลในเลือด ลดไข้ แก้อาการข้ออักเสบ บำรุงน้ำดี
น้ำมะตูม

ส่วนผสม

น้ำสะอาด 20 ลิตร
มะตูม 350 กรัม
น้ำตาลทราย 3.75 กิโลกรัม

วิธีทำ

1. เตรียมน้ำสะอาด 20 ลิตร
2. ย่างมะตูมให้เหลืองหอม ไม่ควรให้เกรียม เพราะจะทำให้มีกลิ่นควันและเหม็นไหม้
3. นำน้ำพร้อมมะตูมขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวให้มะตูมเปื่อยสังเกตโดยใช้ทัพพีจิกเนื้อมะตูมจะฉีกขาดง่าย
4. ใส่น้ำตาลทราย รอเดือด เป็นอันเสร็จค่ะ
น้ำรากบัว

ส่วนผสม
รากบัวหลวง 200 กรัม
น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
น้ำ 6 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1 นำรากบัวล้างให้สะอาด ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นแว่นๆตามแนวเฉียง
2 นำรากบัวที่ได้ใส่หม้อใส่น้ำขึ้นตั้งไฟต้มจนเดือดและเคี่ยวจนเนื้อรากบัวนิ่ม
3 ใส้น้ำตาลทราย คนให้ละลาย ดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น เนื้อก็สามารถรับประทานได้

สรรพคุณ บำรุงหัวใจ
น้ำกระชาย


ส่วนผสม
กระชาย 1 กิโลกรัม
น้ำตาลทราย ตามความเหมาะสม
น้ำสะอาด
วิธีทำ

1. นำกระชายมาล้างให้สะอาดแล้วขูด เปลือก ด้วยมีดหรือเหรียญบาท
2. นำกระชายที่ขูดเปลือกออกแล้วล้างน้ำให้สะอาดอีกครั้ง พักใส่กระชอนเอาไว้
3. ต้มน้ำให้เดือดแล้วใส่กระชายลงไปต้มต่อไปอีกประมาณ ครึ่งชั่วโมงจึงช้อนเอากระชายขึ้นเก็บเอาไว้เพื่อทำแช่อิ่มตากแห้งต่อไป
4. กรองเอาแต่น้ำสะอาด ผสมน้ำตาลชิมรสตามชอบ
น้ำกระชายจะมีรสชาติหวานซ่า ๆ หอมกลิ่นกระชาย ดื่มแล้วชื่นใจ กระชาย 1 กก. เมื่อนำมาขูดแล้วน้ำหนักจะหายไป 1ขีด
สรรพคุณของกระชาย
แก้ อาการท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม แก้ท้องร่วง ท้องเดิน (ไม่ใช่บิดหรืออหิวาตกโรค) รักษาบิด ช่วยบำรุงหัวใจ รักษาริดสีดวงทวารและช่วยลดอาการอักเสบ แก้อาการเป็นลมเวียน รักษาแผลในปาก
น้ำขิง

ส่วนผสม
1. ขิงสด 15 กรัม (ขนาด 1"x1.5" 5 ชิ้น)
2. น้ำเชื่อม 15 กรัม (1 ช้อนคาว)
3. น้ำเปล่า 240 กรัม (16 ช้อนคาว)


วิธีทำ
นำขิงมาปอกเปลือกล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่น ใส่หม้อ ใส่น้ำ ตั้งไฟต้มน้ำจนเดือดสักครู่ยกลง กรองเอาขิงออก ใส่น้ำเชื่อม ชิมรสตามชอบ
หรือ อีกวิธีหนึ่ง ใช้เหง้าขิงแก่ฝนกับน้ำมะนาว ใช้กวาดคอหรือใช้เหง้าขิงสดตำผสมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาน้ำและใส่เกลือนิดหน่อยใช้จิบบ่อย ๆ
ประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับ
คุณ ค่าทางอาหาร พรั่งพร้อมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่นมีแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน และยังมีสารเบต้าแคโรทีน อีกด้วย ซึ่งช่วยต้านโรคมะเร็ง
คุณค่าทางยา แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม และขับเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน เมารถ เมาเรือ ช่วยเจริญอาหาร กินข้าวได้ นอกจากนั้นยังลดการจับตัวของลิ่มเลือด ช่วยย่อยอาหารโดยเพิ่มการหลั่งน้ำดีและน้ำย่อยต่าง ๆ ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
น้ำกระเจี๊ยบ


ส่วนผสม

น้ำสะอาด 20 ลิตร
ดอกกระเจี๊ยบแห้ง 375 กรัม
น้ำตาลทราย 4 กิโลกรัม
เกลือ 60 กรัม
กรดมะนาว 15 กรัม

วิธีทำ

1. ตั้งน้ำพร้อมดอกกระเจี๊ยบแห้ง
2. ใส่กรดมะนาว และเกลือ
3. เคี่ยวจนดอกกระเจี๊ยบเปื่อยยุ่ย สีซีดลง
4. ใส่น้ำตาลทราย รอเดือด เป็นอันเสร็จค่ะ
จาก http://www.bansuanporpeang.com/node/21726