» ความคิดสร้างสรรค์...สอนได้
» โดย อ.ธงชัย โรจน์กังสดาล
“มีดสั้นของข้าพเจ้า ช่างเหล็กธรรมดาใช้เวลาตีเพียงสามชั่วยาม แต่ตำราอาวุธกลับจัดไว้อยู่ในอันดับสาม” ลี้คิมฮวงใน “ฤทธิ์มีดสั้น”
ผมได้สอนวิชาการคิดเชิงนวัตกรรมหรือ Innovative Thinking ที่จุฬาฯ
มาเกือบจะครบ 10 ปีแล้ว และได้มีการพัฒนาเนื้อหาหรือกิจกรรมต่าง ๆ
อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ในบทความนี้ ผมจะเล่าเทคนิค 4
อย่างในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ที่ผมสอนในห้องเรียน
ซึ่งทุกท่านสามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของท่านเองครับ
======
1. การฟังและการดู
ในภาพยนตร์เรื่อง 2012 มีฉากหนึ่งซึ่งพระธิเบตได้รินน้ำชาจนล้นถ้วยไปหมด
ฉากนี้มาจากนิทานเซนเรื่องน้ำชาล้นถ้วย ซึ่งหมายความว่า
ถ้าในสมองเราเต็มไปด้วยความคิด ประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย
แต่ไม่ยอมเปิดรับความคิดใหม่ เราก็ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ได้
เปรียบเหมือน ถ้วยซึ่งเต็มไปด้วยน้ำชาอยู่แล้ว ก็ไม่สามารถรินน้ำชาใหม่เข้าไปในแก้วได้นั่นเอง
ดังนั้น...วิธีหนึ่งในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ คือ
การออกไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ที่นอกเหนือจากศาสตร์ของตนเอง
โดยการไปฟังและดูเรื่องราวต่าง ๆ เช่น...
-
ชมนิทรรศการหรือเข้าร่วมฟังบรรยายในงานสัมมนาต่าง ๆ
ปัจจุบันศูนย์สร้างสรรค์งานออกแแบบหรือ TCDC มีนิทรรศการต่าง ๆ
ที่จัดขึ้นเป็นประจำ และมีห้องสมุดที่มีหนังสือดี ๆ จำนวนมาก
นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการหรืองานบรรยายที่น่าสนใจมากมาย เช่น TEDXBKK, IgniteBKK, Pecha Kucha ซึ่งมีการบรรยายในหัวข้อที่หลากหลาย
- ชมภาพยนตร์ซึ่งจุดประกายความคิดสร้างสรรค์หรือสร้างแรงบันดาลใจ ผมขอแนะนำภาพยนตร์ต่อไปนี้ครับ
Dead Poets Society, October Sky, Lorenzo’s Oil, Patch Adams และ Beanครับ
ภาพยนตร์เหล่านี้บางเรื่องสร้างมาจากเรื่องจริง บางเรื่องเป็นเรื่องแต่ง
แต่ภาพยนตร์เหล่านี้มีเนื้อหาหรือฉากที่ให้ข้อคิดเกี่ยวกับความคิดสร้าง
สรรค์หรือการพัฒนานวัตกรรมได้ดีมาก
ส่วนใหญ่
เรามักชมภาพยนตร์เพื่อความสนุกอย่างเดียว ผมแนะนำว่า
ตอนนี้ลองชมภาพยนตร์ในมุมมองใหม่ว่า
มีฉากไหนบ้างที่เราได้ข้อคิดที่สามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวัน
การทำงานได้บ้างครับ
======
2. การเขียน
เทคนิคนี้ง่ายมากครับ คือ ขอให้มีปากกาและสมุดบันทึกคู่ใจเล่มเล็ก ๆ
ติดตัวตลอดเวลา เพราะไอเดียดี ๆ นั้นสามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา
มีคำกล่าวว่า ความคิดสร้างสรรค์สามารถเกิดได้ใน 3B คือ
Bath (ห้องน้ำ)
Bed (ห้องนอน)
Bus (การเดินทาง)
เพราะเรามักผ่อนคลายในสถานที่เหล่านั้น ทำให้เกิดปิ๊งความคิดดีๆ ขึ้นมา
แต่ถ้าเราไม่รีบจดไอเดียเหล่านั้นแล้วล่ะก็ มันจะหายไปในพริบตาได้เช่นกัน
ถ้าเรามีความคิดหรืออยากบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนอื่นรับทราบ ก็สามารถเขียนใน blog เพื่อเผยแพร่ให้คนอื่นทราบได้
นิสิตในวิชาของผมจะต้องทำ blog
ทุกคนเพื่อบันทึกเนื้อหาที่เรียนมาในแต่ละครั้ง
และบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ เนื่องจาก blog
สามารถใส่รูปภาพหรือคลิปวิดีโอได้
เราควรมีกล้องถ่ายรูปติดตัวเสมอซึ่งทำได้ง่ายมากเพราะโทรศัพท์มือถือส่วน
ใหญ่สามารถถ่ายรูปได้อยู่แล้ว
ดังนั้นเวลาที่เราพบเหตุการณ์หรือสิ่งน่าสนใจ ก็สามารถถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเล่าใน blog หรือเก็บเป็นข้อมูลสำหรับใช้ในอนาคตได้ครับ
======
3. การเล่น
เราควรหางานอดิเรกที่ฝึกใช้ทั้งสองมือได้อย่างคล่องแคล่ว
เพราะการใช้มือได้อย่างคล่องแคล่วจะช่วยทำให้สมองพัฒนาด้วย
เนื่องจากมือเปรียบเสมือนสมองที่งอกออกมา
ในแพทย์แผนจีนจะมีการกล่าวถึงเส้นประสาทลมปราณของแต่ละอวัยวะซึ่งเชื่อมโยง
กับแต่ละนิ้ว ดังนั้นการบริหารนิ้วจะมีผลต่ออวัยวะภายในของร่างกายด้วย
กิจกรรมที่ฝึกความคล่องคล่องของมือมีหลายอย่าง เช่น การควงปากกา การโยนลูกดิ่งโยโย การหมุนรูบิค
ในวิชาของผม ผมจะสอนการโยนลูกจักกลิ้ง (juggling) ซึ่งเป็นการโยนลูกบอล 3
ลูกแล้วรับอย่างคล่องแคล่ว ประโยชน์ของการโยนจักกลิ้งมีหลายอย่างเช่น
- ฝึกการใช้ทั้งสองมือให้ทำงานได้คล่องแคล่ว
- ฝึกสมาธิเพราะการโยนจักกลิ้งจะต้องจดจ่อกับการโยน
- ฝึกความคิดสร้างสรรค์ในการหาท่าโยนจักกลิ้งแบบใหม่
การโยนจักกลิ้งเป็นทักษะที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ ไม่ใช่พรสวรรค์พิเศษของนักมายากลหรือนักเล่นละครสัตว์แต่อย่างใด
ปัจจุบันใน Youtube มีคลิปวิดีโอสอนการโยนจักกลิ้งมากมาย
ซึ่งเราสามารถดูและฝึกฝนด้วยตัวเองได้
ท่านผู้อ่านสามารถหาซื้อลูกจักกลิ้งได้ที่ถนนข้าวสารครับ
======
4. ความเชื่อมั่น
นิยายกำลังภายในเรื่องหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคือ “ฤทธิ์มีดสั้น”
ซึ่งประพันธ์โดยโกวเล้ง ตัวเอกในเรื่องฤทธิ์มีดสั้นคือลี้คิมฮวง
มีดบินไม่เคยพลาดเป้า ถึงแม้ว่าลี้คิมฮวงจะใช้อาวุธคือมีดสั้นธรรมดา
แต่มีฝีมือสูงส่งอยู่ในอันดับสามของยุทธจักร
ดังข้อความที่ยกมาในตอนต้นของบทความ ผมคิดว่านิยายเรื่องนี้บอกอุปมาอุปไมยที่ดีในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์เช่นกัน นั่นคือ...
ปัจจัยสำคัญที่สุดในการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ไม่ใช่สิ่งภายนอก
(เปรียบเสมือนอาวุธที่เหล่าจอมยุทธใช้) แต่เป็นสิ่งภายในที่อยู่ในตัวเรา
(เปรียบเสมือนกำลังภายในหรือวิทยายุทธของตนเอง)
ดังนั้นขอให้เราจงเชื่อมั่นตัวเองเสมอว่า เรามีความคิดสร้างสรรค์ชั้นเยี่ยม
ไม่ว่าเราจะขาดแคลนต้นทุนภายนอกอย่างไรก็ตาม แต่ถ้าต้นทุนภายในของเราคือ
ความเชื่อมั่นในความสามารถและศักยภาพของตนเองเต็มแล้ว
เราจะมีหนทางเสมอในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
====
• สรุป
ปัจจุบันโลกได้เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เราจะได้ยินศาสตร์ใหม่ ๆ
มากขึ้น
รูปแบบการทำธุรกิจแบบดั้งเดิมจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในยุคที่มีการเปลี่ยน
แปลงและแข่งขันอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับทุกคนในการทำธุรกิจ ขอให้พวกเราทุกคนพูดกับตัวเองดัง ๆ ว่า...
"ฉันมีความคิดสร้างสรรค์ยอดเยี่ยม"
และทำความฝันให้เป็นความจริงกันเถอะครับ
======
Credit : อ.ธงชัย โรจน์กังสดาล | ภาควิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย | www.TCDC.or.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น